ก.พลังงานชงกพช.ฟันธงตรึงราคาก๊าซ NGV-LPG ต่อหรือไม่หลังสิ้นสุดส.ค.53

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 9, 2010 14:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ กระทรวงพลังงานจะเสนอแนวทางการปรับเปลี่ยนราคาก๊าซทั้ง NGV และก๊าซหุงต้ม(LPG) หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการตรึงราคาสิ้นเดือนส.ค.53 ซึ่งมีหลายแนวทางที่จะเสนอทั้งการขยับราคาหรือการตรึงราคาต่อเพื่อให้ที่ประชุมตัดสินใจ

ในขณะเดียวกันจะนำผลการศึกษาเรื่องการปรับเปลี่ยนค่าแอดเดอร์ของการรับซื้อไฟฟ้าแสงอาทิตย์-พลังงานลม เข้าสู่ที่ประชุมด้วย โดยจะต้องพิจารณาไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ลงทุนในอัตราที่สูงเกินไป ซึ่งก่อนหน้านี้มีการศึกษาว่าหากยังคงราคาแอดเดอร์ในราคาปัจจุบันอาจทำให้เกิดต้นทุนต่อค่าไฟฟ้าถึง 20 สต./หน่วยในอนาคต

ด้านนายณัฐชาติ จารุจินดา รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า จะเสนอทางเลือกให้กระทรวงพลังงานพิจารณาโดยเห็นว่าภาระปัจจุบันนี้ต้นทุนก๊าซ NGV สูงกว่าราคาขายที่ 8.50 บาท/กก. ถึง 6 บาท/กก. หรือคิดเป็นราคาต้นทุนอยู่ที่ 14.50 บาท/กก.

ดังนั้นแนวทางที่เห็นว่าควรจะร่วมรับภาระร่วมกันนั้น คือ ปตท.พร้อมแบกภาระต่อ 2 บาท/กก. ส่วนรัฐบาลโดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงควรรับภาระ 2 บาท/กก. และประชาชนรับภาระ 2 บาท/กก. ซึ่งทำให้ราคาควรขยับขึ้นเป็น 10.50 บาท /กก.โดยเมื่อปรับขึ้นราคา NGV แล้วก็ยังเป็นราคาที่ต่ำกว่าก๊าซ LPG ซึ่งอยู่ที่ 11.40 บาท/ลิตร โดยหากเปรียบเทียบที่ค่าความร้อนเดียวกันแล้วก็จะถูกกว่าประมาณ20-30%

"แม้ขณะนี้ ปตท.จะได้รับเงินอุดหนุน NGV จากกองทุนน้ำมัน 2 บาท/กก. โดยกำหนดอัตราช่วยเหลือสูงสุดไม่เกิน 300 ล้านบาท/เดือน แต่ขณะนี้ก็เต็มวงเงินแล้วเพราะความต้องการใช้เอ็นจีวีสูงถึง 4,600 ตัน/วัน และจะพุ่งขึ้นเป็น 5,000 ตัน/วันในสิ้นปีนี้ ซึ่งเท่ากับปตท.จะมีภาระขาดทุนถึง 20 ล้านบาท/วัน ดังนั้นจึงเห็นว่าน่าจะมีการปรับขึ้นราคาบ้างเพื่อความเหมาะสม" นายณัฐชาติ กล่าว

ส่วนการปรับราคาก๊าซ LPG นั้น นายณัฐชาติ กล่าวว่า ในเดือน พ.ค.มีการนำเข้าสูงถึง 170,000 ตัน และเดือน มิ.ย.จะนำเข้าถึง 1.3 แสนตัน โดยปตท.เป็นผู้นำเข้าให้ก่อนแล้วกองทุนน้ำมันฯ จะเป็นผู้จ่ายภาระส่วนต่างนำเข้าให้ปตท. แต่ก็ยังติดค้างรวมกว่า 8,500 ล้านบาท ซึ่งหากไม่มีการปรับโครงสร้างราคาบ้างก็จะทำให้ประเทศเสียเงินนำเข้าในมูลค่าที่สูง

โดยล่าสุดราคาก๊าซ LPG อยู่ที่ประมาณ 680 ดอลลาร์/ตัน โดยหากมีการปรับโครงสร้างตามที่กระทรวงพลังงานอยู่ในระหว่างศึกษา คือ แยกราคาออกเป็น 2 ราคา คือ 1. ราคาครัวเรือน-ขนส่ง และ 2.ราคาอุตสาหกรรม-ปิโตรเคมี ก็คาดว่าจะทำให้ภาระนำเข้าลดลงบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการตรึงราคาก๊าซ LPG ในภาคครัวเรือนและขนส่งนั้นจะมีความเป็นไปได้สูง เพราะจะไม่กระทบต่อประชาชน ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมอาจจะขยับราคาเพื่อลดภาระกองทุนฯ เพราะในขณะ นี้ปรากฏว่าโรงงานต่างๆ มีการปรับเปลี่ยนจากน้ำมันมาใช้ก๊าซ LPG เป็นจำนวนมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ