รัฐมนตรีคลังสหรัฐชี้นโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนของจีนในปัจจุบันเป็นอุปสรรคกัดขวางการฟื้นตัวอย่างสมดุลของเศรษฐกิจโลก วอนจีนขึ้นค่าเงินหยวนเพื่อช่วยป้องกันภาวะเงินเฟ้อในประเทศจีนเอง
ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาว่า การควบคุมการเคลื่อนไหวของเงินหยวนส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ และเป็นอุปสรรคที่กีดขวางการขยายตัวอย่างสมดุล ซึ่งมีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจโลก โดยเงินหยวนที่มีความยืดหยุ่นจะช่วยให้จีนสามารถเดินหน้าผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงใช้นโยบายการเงินได้อย่างเสรี ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในภาวะปัจจุบัน เนื่องจากจีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อทั้งในราคาสินค้าและสินทรัพย์ภายในประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐพยายามกดดันให้จีนปล่อยลอยตัวค่าเงินหยวน โดยไกธ์เนอร์หวังว่าการเจรจาจะช่วยปูทางให้จีนยอมขึ้นค่าเงินหยวน หลังจากที่จีนได้ตรึงค่าเงินหยวนให้เคลื่อนไหวตามสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลกจนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประเทศคู่ค้า รวมถึงสหรัฐซึ่งมองว่าการกระทำดังกล่าวทำให้บรรยากาศทางการค้าในเวทีโลกขาดความเป็นธรรม
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุในรายงานดุลบัญชีการค้าว่า มูลค่าทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 1.265 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่สหรัฐมียอดนำเข้าสินค้าจากจีนสูงกว่ายอดสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศจีนอยู่ 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ส่วนต่างทางการค้าของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น 5.7% จากปีก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ไกธ์เนอร์กล่าวทิ้งท้ายโดยต้องการให้จีนปรับยุทธศาสตร์การขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยการลดการพึ่งพาการส่งออกและหันมากระตุ้นการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น