สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ยอดค้าปลีกของจีนในเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 1.25 ล้านล้านหยวน (1.83 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกของจีนในเดือนพ.ค.ยังขยายตัวสูงกว่าระดับเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ 3.5% และเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนเม.ย.
โดยอัตราการใช้จ่ายของประชาชนในเขตเมืองช่วงเดือนพ.ค.พุ่งแตะระดับ 1.08 ล้านล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น 19.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การใช้จ่ายของประชาชนในชนบทขยายตัวได้ 15.8% แตะที่ 1.637 แสนล้านหยวน
สำหรับยอดค้าปลีกโดยรวมของจีนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ไต่ระดับขึ้น 18.2% แตะที่ 6.03 ล้านล้านหยวน โดยอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศเพื่อรับมือกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงินอุดหนุนสำหรับการซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ภายในบ้านสำหรับประชาชนในชนบท และรวมถึงการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อรถ ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2552
โดยยอดขายยานยนต์ของจีนในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 28.35% จากปีก่อนหน้านี้ แตะที่ 1.44 ล้านคัน ส่งผลให้ยอดขายยานยนต์โดยรวมในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้แตะที่ 7.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 53.25% จากปีก่อนหน้านี้
ส่วนยอดขายสินค้าประเภทเครื่องใช้ภายในบ้านในแถบชนบทประจำเดือนพ.ค.ทะยานขึ้น 220% แตะที่ 1.26 หมื่นล้านหยวน ส่งผลให้ยอดขายในเดือนม.ค.-พ.ค.อยู่ที่ 5.435 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 400% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ รายงานตัวเลขค้าปลีกเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้วัดอัตราการใช้จ่ายผู้บริโภคของจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในโลก