คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) คาดการณ์ในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีหลักที่ใช้วัดภาวะเงินเฟ้อ จะขยายตัวในระดับปานกลางในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้การขยายตัวโดยเฉลี่ยของ CPI อยู่ที่ราว 2.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 นับเป็นการปรับทบทวนเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.5% ที่ NDRC คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การคาดการณ์ของ NDRC ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน มีขึ้นหลังจากที่วานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เพิ่งเปิดเผยว่า CPI เดือนพ.ค.ขยายตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือนที่อัตรา 3.1% ต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนเม.ย. และสูงกว่าเป้าหมายตลอดทั้งปีที่รัฐบาลกำหนดไว้ว่าดัชนี CPI ไม่ควรเคลื่อนไหวเกินกว่า 3%
ส่วนดัชนี CPI ในช่วงห้าเดือนแรกของปีนี้ พุ่งขึ้น 2.5% ต่อปี
ทั้งนี้ การคาดการณ์ของ NDRC ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของหน่วยงานในวันนี้ ระบุว่า CPI เดือนมิ.ย.ของจีน จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่จะยังคงขยายตัวปานกลางเมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากฐานการเปรียบเทียบที่ต่ำกว่าในช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
โดย NDRC เชื่อว่า ราคาจะมีเสถียรภาพเนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้แก่ การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในต่างประเทศ นโยบายควบคุมเศรษฐกิจมหภาค และการปราบปรามการเก็งกำไรผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ตลอดจนการเก็บเกี่ยวพืชผลในฤดูร้อนที่คาดว่าน่าจะเป็นที่น่าพอใจ
นายเจิ้ง ไหล่หยุน โฆษก NBS กล่าววานนี้ว่า จีนมีปัจจัยพื้นฐานที่จะช่วยให้สามารถควบคุมราคาให้อยู่ภายในระดับเป้าหมายได้
"แม้จีนเผชิญกับแรงกดดันค่อนข้างมาก แต่เป้าหมายตลอดทั้งปีที่ 3% ยังคงเป็นไปได้ด้วยความพยายามของเรา" เขากล่าว