กระทรวงพาณิชย์จีนคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมการส่งออกของจีนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค.นั้น มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพราะถูกกระทบจากวิกฤตหนี้สาธารณะในประเทศยุโรป
สำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนพ.ค.ขยายตัวแข็งแกร่ง 48.5% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 48.3% ซึ่งทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์
ยอดส่งออกจากจีนไปยัง 27 ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของจีน พุ่งขึ้น 34.4% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ยอดส่งออกไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น 24.8% ทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐสูงถึง 1.67 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ นายเหยา เจี้ยน โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า ยอดส่งออกของจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากวิกฤตหนี้สาธารณะทำให้เศรษฐกิจของประเทศยุโรปได้รับผลกระทบอย่างหนัก นอกจากนี้ คาดว่ายอดส่งออกของจีนจะถูกกระทบจากต้นทุนแรงงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นด้วย
"ยุโรปเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเรา เมื่อยุโรปเผชิญปัญหาหนี้สาธารณะ จึงอาจส่งผลให้ยุโรปนำเข้าสินค้าน้อยลง ซึ่งจะกระทบต่อจีนด้วย ด้วยเหตุนี้จีนต้องเร่งปรับยุทธศาสตร์เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านการค้า" นายเหยากล่าว
การแสดงความคิดเห็นของโฆษกระทรวงพาณิชย์จีนมีขึ้นหลังจากนายหลี่ เตากุย ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชิงหัว แสดงความคิดเห็นไว้ก่อนหน้านี้ว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปยังไม่รุนแรงพอที่จะทำให้เกิดวิกฤตการเงินโลกรอบใหม่ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อดีมานด์การส่งออกสินค้าของจีนในระยะยาว