บล.กสิกรไทย และ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (14-18 มิ.ย.53) ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยนักลงทุนคงจะต้องจับตาปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ปัญหาหนี้ในยุโรป การดำเนินมาตรการของทางการจีนและเกาหลีใต้ ทิศทางของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ขณะที่ปัจจัยในประเทศอาจมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไม่มากนัก โดยคาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 764 และ 754 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 800 และ 807 จุด ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 769.55 จุด ขยับลง 0.25% จาก 771.48 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.77% จากสิ้นปี552 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลง 4.35% จาก 89,922.96 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 86,009.56 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงจาก 17,984.59 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 17,201.91 ล้านบาท
โดยนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิที่ 1,701.79 ล้านบาท 1,165.88 ล้านบาท และ 401.43 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิที่ 3,269.12 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 223.39 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.20% จาก 220.75 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า และพุ่งขึ้น 3.76% จากสิ้นปีก่อน
การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยยังคงได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาหนี้ของประเทศในยุโรป ประกอบกับภายในประเทศก็ขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น ดัชนีหุ้นไทยปิดลบในช่วงต้นสัปดาห์ โดยมีแรงขายนำในหุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ขณะที่ความวิตกต่อปัญหาหนี้ของประเทศในยุโรป ยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ทำให้เงินลงทุนของต่างชาติได้ออกจากตลาดหุ้นเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องหลังจากนั้น โดยดัชนีปิดบวกเล็กน้อยในช่วงกลางสัปดาห์ จากแรงซื้อนำในหุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อนจะปิดปรับตัวขึ้นต่อในวันพฤหัสบดี หลังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในแดนบวกสลับกับแดนลบ โดยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงาน และปิโตรเคมี ช่วยหนุนให้ดัชนีปิดในแดนบวกได้ ส่วนในช่วงท้ายสัปดาห์ ดัชนีปิดปรับตัวขึ้นอีก ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังได้รับแรงหนุนจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนและอินเดียที่แข็งแกร่ง
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า (14-18 มิ.ย. 2553) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยและบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย