BIS ชี้วิกฤตหนี้ยุโรปบั่นทอนความเชื่อมั่นในตลาด ขณะนลท.เมินข้อมูลศก.ในแง่บวก

ข่าวต่างประเทศ Monday June 14, 2010 10:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements หรือ BIS) ระบุว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปได้สร้างปัจจัยลบต่อนักลงทุน แม้ว่าขณะนี้การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจะบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวบ้างแล้วก็ตาม

โดยธนาคารฯระบุว่า นักลงทุนต่างพุ่งความสนใจไปยังปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ดังนั้น นักลงทุนจึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาในแง่บวก อาทิ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด 100,000 ตำแหน่ง ไปแตะที่ 290,000 ตำแหน่ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา วิกฤตหนี้สาธารณะได้ส่งผลกระทบให้เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นสูญไปแล้วกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ขณะที่เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผู้นำกลุ่มประเทศยุโรได้เปิดเผยมาตรการช่วยเหลือในวงเงิน 7.50 แสนล้านยูโร (9.10 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อยับยั้งมิให้วิกฤตหนี้สินที่มีต้นตอจากกรีซลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ

นอกจากนี้ ธนาคาร BIS ระบุเพิ่มเติมว่า ความวิตกกังวลในตลาดผ่อนคลายลงเพียงชั่วขณะ ซึ่งในเวลาไม่นานความเชื่อมั่นนักลงทุนก็เลวร้ายลงอีก ท่ามกลางความหวั่นวิตกต่อการแก้ปัญหาหนี้สินที่มีขึ้นควบคู่กับการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของธนาคาร BIS กล่าวว่า นักลงทุนยังคงตั้งคำถามเรื่องความแข็งแกร่งด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก เนื่องจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เศรษฐกิจเผชิญกับปัจจัยแวดล้อมหลายประการ อาทิ ความเสี่ยงที่ว่าหนี้สาธารณะของยุโรปที่พุ่งสูงอาจฉุดรั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นได้ส่งผลกระทบให้ตลาดเงินมีความเปราะบางมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปบางแห่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจถึงระดับตัวเลข 2 หลัก หากยุโรปไม่สามารจัดการกับวิกฤตหนี้สินที่เกิดขึ้นได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ