ผู้แทนเจรจาไต้หวันและจีนได้เห็นชอบในข้อตกลงการค้าที่มีการหารือในกรุงปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวระบุให้มีการลด หรือ ยกเลือกภาษีสินค้าและบริการหลายร้อยรายการ อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อจำกัดด้านการค้าเสรี
มูลนิธิการแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบของไต้หวัน (Straits Exchange Foundation หรือ SEF) กล่าวถึงข้อตกลงกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ (Economic Cooperation Framework Agreement หรือ ECFA) ที่จะมีผลกับสินค้าและบริการที่ได้รับการงดเว้นภาษีว่า ข้อตกลงนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวัน ซึ่งเป็นที่คาดกันว่า ทั้งสองฝ่ายจะลงนามในข้อตกลงดังกล่าวภายในสิ้นเดือนนี้
นอกจากนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุถึงการบรรลุข้อตกลงด้านการลงทุน และความร่วมมือด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญหา และประเด็นด้านการเงิน
"การลงนามในข้อตกลง ECFA จะช่วยกำหนดรูปแบบการค้าระหว่างจีนและไต้หวันได้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างกลไกความร่วมมือทางเศรษฐกิจข้ามช่องแคบที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย กระตุ้นบรรยากาศทางการค้าที่โปร่งใสและสะดวกรวดเร็วสำหรับการลงทุนและการค้าในรูปแบบอื่นๆ รวมถึงยกระดับความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน ตลอดจนเพิ่มการให้ความร่วมมือระหว่างกันด้วยการดำเนินงานที่แข็งขันและมีประสิทธิภาพ"
การเจรจาด้านข้อตกลงการค้าในกรุงปักกิ่งถือเป็นการสิ้นสุดการหารือทางการค้าที่ยืดเยื้อมานานหลายสัปดาห์ อีกทั้งยังเป็นการเจรจาที่พลิกความคาดหมายของบรรดาสื่อในไต้หวันที่มองว่า จีนและไต้หวันจะยังไม่ได้ข้อสรุปในการเลือกภาคอุตสาหกรรมที่ระบุให้มีการยกเลิกภาษีเป็นกลุ่มแรก
ด้านนายหวง ฉือเผิง หัวหน้าผู้แทนเจรจาการค้าไต้หวัน และ ถัง เหว่ย ผู้แทนเจรจาการค้าของจีนกล่าวว่า สินค้าในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ของไต้หวันราว 500 รายการจะได้รับสิทธิพิเศษใหม่ เมื่อเทียบกับสินค้าของจีนที่ได้รับสิทธิพิเศษใหม่ราว 200 รายการ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อตกลงการค้า ECFA เป็นข้อตกลงที่มีความสำคัญต่อนโยบายทางการเมืองของประธานาธิบดีหม่า อิง-จิว ของไต้หวัน ซึ่งเขาพยายามที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวันกับจีนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เพื่อแสดงให้ชาวไต้หวันเห็นว่า การให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับจีนจะช่วยกระตุ้นหลายฝ่ายเล็งเห็นถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของไต้หวัน