นายดุสิต นนทนาคร ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) รับทราบการรายงานความคืบหน้าการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ ซึ่งคาดว่าภายในปลายปีนี้คงมีความชัดเจน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องใช้ระยะเวลา และต้องเชื่อมโยงกัน ไม่สามารถดำเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นการเฉพาะได้
"อย่าเพิ่งใจร้อน เรื่องนี้ต้องทำทั้งระบบ ไม่สามารถแยกทำเป็นเฉพาะเรื่องได้ เพราะจะมีความเชื่อมโยงถึงกัน"
เรื่องของโครงสร้างภาษี หลักสำคัญคือจะทำอย่างไรที่จะใช้เรื่องภาษีทำให้สามารถแข่งขันได้เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ส่วนการประกาศใช้คงต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะหากประกาศไปแล้วส่งผลให้การพัฒนาประเทศชะงักก็จะไม่เป็นผลดี
สำหรับมาตรการภาษีด้านการท่องเที่ยวที่จะให้ลดภาษีแพ็คเกจทัวร์ นายดุสิต กล่าวว่า กำลังจะมีการปรับปรุงเพื่อให้ผลประโยชน์กระจายไปอย่างทั่วถึงและเหมาะสม เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ประมาณ 80% ไปเที่ยวกันเอง โดยจะให้ให้สามารถนำรายจ่ายมาลดหย่อนได้ เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้สัมฤทธิ์ผลมากขึ้น ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังดำเนินการอยู่
ส่วนปัญหาภัยแล้ง คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ คงจะแก้ไขได้เพราะเรื่องภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่ประสบอยู่เป็นประจำอยู่แล้วไม่ว่าจะฝนน้อยหรือฝนมาก คาดว่าคงจะไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกข้าวในช่วง 3 ไตรมาสแรก แต่ช่วงไตรมาสที่ 4 อาจจะชะลอตัวลงบ้าง
นายดุสิต กล่าวต่อว่า ในส่วนของภาคเอกชน หากจุดใดที่ภาคเอกชนสามารถดำเนินการได้ก็ดำเนินการไปเลยทันที ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการยุติความแตกแยก เรื่องของความเหลื่อมล้ำทางการกระจายรายได้ และเรื่องคอร์รัปชั่น จะดูว่าวิธีการไหนที่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ก็จะนำมาปรับใช้