นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ(กรอ.) เห็นชอบแนวทางการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมนิเวศน์ (Eco Industrial Town) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ศึกษามาเพื่อเชื่อมโยงการพัฒนาพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ เพื่อในอนาคตจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ เรื่องทรัพยากร คุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรค 2 โดยให้มีการศึกษาแนวทางไว้ก่อน
วันนี้สภาพัฒน์ฯ เสนอพื้นที่นำร่องที่จะต้องกำหนดว่าจะต้องเร่งเข้าไปฟื้นฟู ใน 3 ระดับ ระดับแรก คือ พื้นที่ที่มีการใช้เพื่อการอุตสาหกรรมเต็มศักยภาพแล้ว ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง และ พระนครศรีอยุธยา
กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่มีการมีการใช้พื้นที่เพื่อการอุตสาหกรรมแต่มียังมีศักยภาพที่จะรองรับการพัฒนาได้อีก เช่น สระบุรี ราชรี นครปฐม ฉะเชิงเทรา นนทบุรี นครราชสีมา สงขลา ลำพูน และ แพร่
และกลุ่มที่สาม เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมได้อีก คือ ประจวบคีรีขันธ์ ยะลา ชุมพร แม่ฮ่องสอน หนองคาย และมุกดาหาร
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า นอกจากการเข้าไปดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว หากเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาเต็มศักยภาพแล้ว อย่าง กรุงเทพฯ หรือ สมุทรปราการ ก็จะต้องเร่งเข้าไปฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว อีกส่วนหนึ่งที่ประชุมเห็นว่าต้องดูแลให้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่ายังเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมทียังเบาบางหรือเป็นพื้นที่ที่มีอุตสาหกรรมมากแล้ว อย่างพระนครศรีอยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากเกรงว่าหากมีการพัฒนาอุตสาหกรรมมาก อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยว เช่น อยุธยา หากมีปัญหามากจะกระทบถึงมรดกโลกด้วย