นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้ารายใหญ่ ร้านโมเดิร์นเทรด พบว่าผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าต่อไปอีก 3 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในสิ้นเดือนก.ย.53 จากเดิมที่จะสิ้นสุดสิ้นเดือนมิ.ย.นี้
โดยสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม, ของใช้ประจำวัน, บริภัณฑ์ขนส่ง, หมวดกระดาษ และวัตถุดิบการผลิต รวมถึงห้างค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ และร้านสะดวกซื้อ ยินดีให้ความร่วมมือตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต่อไปจนถึงปลายเดือนก.ย. 53 เพื่อลดค่าครองชีพให้ประชาชน
อย่างไรก็ตาม หากสิ้นสุดเวลาขอความร่วมมือครั้งนี้แล้ว ไตรมาสต่อไปจะตรึงราคาสินค้าต่อหรือไม่ คงต้องพิจารณาอีกครั้ง เพราะการตรึงราคาเป็นเวลานานอาจทำให้กลไกตลาดบิดเบือนได้
ส่วนผู้ประกอบการสินค้าบางรายการ เช่น เหล็ก, เหล็กที่ใช้ผลิตกระป๋องบรรจุอาหาร (ทินเพลต) รวมถึงวัสดุก่อสร้าง อาจขอปรับขึ้นราคาจำหน่าย เพราะราคาวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศปรับขึ้นจากปีก่อนกว่าเท่าตัว ส่งผลให้ราคาในประเทศต้องขยับขึ้นตาม จึงขอให้ผู้ประกอบการกลับไปทำรายละเอียดต้นทุนการผลิต เพื่อเสนอให้กรมการค้าภายในพิจารณาอีกครั้ง
"สินค้าเหล็กคงตรึงราคาต่อไม่ได้ เพราะต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบในตลาดโลกสูงขึ้น ก็ขอให้ผู้ประกอบการทำรายละเอียดต้นทุนมาคุยกับกรมการค้าภายใน ส่วนทินเพลตที่ขายให้ผู้ประกอบการในประเทศ คงขอให้ตรึงราคาไปก่อน เพราะการขึ้นราคาจะมีผลให้สินค้าอื่นๆ ที่ใช้ทินเพลตต้องปรับขึ้นตามไปด้วย" รมว.พาณิชย์ กล่าว