IMF คาดเอเชียมีบทบาทผลักดันผลผลิตทั่วโลกในสัดส่วนกว่า 1 ใน 3

ข่าวต่างประเทศ Wednesday June 16, 2010 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวแสดงความคิดเห็นผ่านคอลัมน์ในวารสาร "The Finance & Development Magazine" ซึ่งเป็นวารสารของไอเอ็มเอฟที่เผยแพร่ในสหรัฐฉบับล่าสุดว่า ภายในระยะเวลา 5 ปีนี้ เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ จะมีบทบาทในการผลักดันผลผลิตทั่วโลกในสัดส่วนกว่า 1 ใน 3

รายงานของไอเอ็มเอฟระบุว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเอเชียมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งกว่าจีดีพีในกลุ่ม G7 ที่ประกอบไปด้วยสหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา และอิตาลี

"ความเป็นไปได้ที่ว่าเอเชียจะก้าวขึ้นเป็นภูมิภาคที่มีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2573 คงไม่ใช่การคาดการณ์ที่ไกลเกินจริง " อรรณพ ซิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการความคืบหน้าในเอเชียแปซิฟิกของไอเอ็มเอฟกล่าว

นายซิงห์กล่าวว่า จีนและอินเดียเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย และยังเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 3 ของทั้งสองประเทศ จึงทำให้เศรษฐกิจเอเชียมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยที่ผ่านมานั้น เอเชียเป็นกลไกสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคอื่นๆ ให้ฟื้นตัว ซึ่งการขยายตัวของเอเชียประกอบไปด้วย 2 ปัจจัยหลักด้วยกัน คือการส่งออกและดีมานด์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

"นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 เป็นต้นมา เศรษฐกิจทั่วเอเชียดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ผลผลิตและการส่งออกขยายตัวเทียบเท่าช่วงเวลาก่อนเกิดวิกฤตการณ์ในเอเชีย แนวโน้มความเสี่ยงระยะสั้นยังคงมีอยู่ แต่เอเชียก็สามารถฟื้นตัวจากภาวะถดถอย และสามารถต้านทานวิกฤตการณ์ทั่วโลกได้" นายซิงห์กล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ