สนพ.หนุนไบโอแก๊สในรง.อุตสาหกรรมตั้งเป้าดึงผู้ประกอบการร่วม 74 รายปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 16, 2010 11:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในปี 53 สนพ. เตรียมเปิดรับข้อเสนอขอรับทุนสนับสนุนการจัดทำระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียหรือของเสียโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มอีก 74 ราย ในวงเงินสนับสนุนรวม 660 ล้านบาท โดยจะเปิดรับข้อเสนอขอรับทุน ระหว่างวันที่ 15 มิ.ย.-30 ก.ค.53

ทั้งนี้ ผู้สนใจจะต้องเป็นผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม อาทิ โรงงานผลิตภัณฑ์จากแป้ง โรงงานสกัดน้ำมันพืช โรงงานเอทานอล โรงงานน้ำยางข้น โรงงานแปรรูปอาหาร เป็นต้น

นายวีระพล กล่าวว่า สนพ. ตั้งเป้าการผลิตก๊าซชีวภาพในรอบปี 53 ไว้ที่ 140.8 ล้าน ลบ.ม./ปี เพื่อให้ทดแทนพลังงานไฟฟ้า 18.26 ล้านหน่วย/ปี และนำไปผลิตพลังงานความร้อนทดแทนน้ำมันเตาได้ 70.21 ล้านลิตร/ปี คิดเป็นมูลค่าผลประหยัดประมาณ 1,108 ล้านบาท/ปี

“สนพ.ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการใช้พลังงานจากก๊าซชีวภาพ เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานที่มีศักยภาพสูง สามารถแก้ไขปัญหาด้านพลังงานของประเทศ อีกทั้งสามารถแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากน้ำเสียหรือของเสีย และยังช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อนอีกด้วย"นายวีระพล กล่าว

อนึ่ง สนพ.ได้ดำเนิน“โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม"เพื่อส่งเสริมให้มีการนำน้ำเสีย ของเสีย หรือขยะอินทรีย์ที่เหลือทิ้ง มาแปรรูปเป็นก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน ในช่วงปี 51-55 ตั้งเป้าครอบคลุมโรงงานอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ 338 แห่ง คาดว่าจะผลิตก๊าซชีวภาพได้ประมาณ 637 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,950 ล้านบาท/ปี

ทั้งนี้ จากการดำเนินงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา(ปี 51-52)พบว่ามีผู้ประกอบการโรงงานให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ แล้วทั้งสิ้น 90 ราย ประกอบด้วย อุตสาหกรรมแป้ง 23 ราย ปาล์มน้ำมัน 32 ราย เอทานอล 13 ราย อุตสาหกรรมอาหาร 12 ราย น้ำยางข้น 3 ราย และอื่นๆ 7 ราย คิดเป็นเงินสนับสนุนรวมกว่า 905 ล้านบาท ทำให้ประเทศมีกำลังการผลิตพลังงานทดแทนในรูปของก๊าซชีวภาพได้ประมาณ 434 ล้านลบ.ม./ปี

ก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้ ถูกนำไปใช้ทดแทนพลังงานเชิงพาณิชย์รวมเป็นมูลค่า 2,703 ล้านบาท/ปี และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 3.9 ล้านตัน/ปี นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องจากภาคเอกชนเป็นเม็ดเงินไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ