ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ จากความวิตกปัญหาระบบการเงินสเปน

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 17, 2010 07:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและปัญหาในระบบการธนาคารของสเปน รวมถึงข่าวที่ว่าธนาคารกลางสเปนเตรียมดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลด้านการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.2303 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2323 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.26% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.4761 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4800 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.410 เยน แต่ร่วงลง 0.33% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.1295 ฟรังค์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.1332 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.21% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8635 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.8653 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับลง 0.09% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.6977 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6983 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนกระหน่ำขายเงินยูโรเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและปัญหาในระบบการธนาคารของสเปน โดยมีรายงานว่าธนาคารกลางสเปนเตรียมดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤต หรือความสามารถในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินของธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัท แอคชั่น อิโคโนมิค ในเมืองโตรอนโต้ กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ในสเปนกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่องตึงตัว เนื่องจากธนาคารในบางประเทศปฏิเสธที่จะปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารสเปน

สหภาพยุโรป (อียู) ปฏิเสธรายงานข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์เอล เอโคโนมิสต้า ว่า อียู กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และกระทรวงการคลังสหรัฐ กำลังร่วมมือกันจัดหาสินเชื่อวงเงินสูงถึง 2.50 แสนล้านยูโรให้กับรัฐบาลสเปน หลังจากที่ก่อนหน้านี้อียูได้เคยออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวมาแล้ว เมื่อหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ ดอยช์ลันด์ ระบุว่า อียูกำลังกำลังให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่สเปน ซึ่งเป็นเงินส่วนหนึ่งจากมาตรการฉุกเฉินมูลค่า 7.50 แสนล้านยูโร (9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ทางอียูและไอเอ็มเอฟทำข้อตกลงร่วมกัน

สเปนและโปรตุเกส ต่างถูกมองว่าเป็นสองประเทศสมาชิกยูโรโซนที่อาจจะร้องขอความช่วยเหลือด้านการเงิน เนื่องจากเผชิญหาหนี้สาธารณะแบบเดียวกันกับกรีซ โดยที่ผ่านมานั้น รัฐบาลสเปนได้ประกาศใช้มาตรการลดรายจ่ายที่มีความเข็มงวด เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า ราคาผู้บริโภคในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.6% ต่อปีในเดือนพ.ค. จากระดับ 1.5% ในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้ตัวเลขดังกล่าวขยับเข้าใกล้ระดับ 2% ที่ธนาคารกลางยุโรปได้กำหนดไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา

ในบรรดาประเทศสมาชิกอียูนั้น กรีซมีอัตราเงินเฟ้อสูงสุดที่ 5.3% ตามมาด้วยฮังการีและโรมาเนีย ขณะที่ลัตเวียมีเงินเฟ้อต่ำสุดที่ 2.4% ส่วนอัตราเงินเฟ้อในเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่สุดในยุโรป อยู่ที่ 1.2% และ 1.9% ตามลำดับ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเงินปอนด์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลผลิตในโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค พุ่งขึ้น 1.2%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันพฤหัสบดี โดยกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ค. ส่วนวันศุกร์ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ