สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค.53 อยู่ที่ 94.7 ปรับตัวลดลงจากเดือนเม.ย.ที่อยู่ในระดับ 99.3 เนื่องจากเหตุการ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเดือน เม.ย.-พ.ค.ทำให้รัฐบาลประกาศเพิ่มวันหยุดราชการ ทำให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อยหยุดชั่วโมงการทำงานลง มีผลต่อปริมาณการผลิตลดลง
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้กระทบกับธรุกิจภายในประเทศเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมขนาดย่อม ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมขนาดย่อมปรับลดลงจากระดับ 94.0 มาอยู่ที่ระดับ 81.6 ในขณะที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และอุตสาหกรรมที่เน้นตลาดต่างประเทศ ต่างปรับตัวสูงขึ้น โดยองค์ประกอบดัชนีด้านยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศและยอดขายในต่างประเทศ ปรับตัวสูงขึ้นในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นด้านการส่งออก
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลง จากระดับ 107.4 ในเดือน เม.ย.อยู่ที่ระดับ 105.0 ในเดือน พ.ค.เนื่องจากผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า ยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณการผลิตและผลประกอบการจะปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมีข้อเสนอต่อภาครัฐให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการแก้ไขปัญหามาบตาพุด ให้การสนับสนุนการช่วยเหลือทางการเงินด้วยการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะธนาคารของภาครัฐ ควรมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ และควรเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยสนับสนุนการพัฒนาแรงงานให้เพียงพอกับความต้องการแรงงานภาคอุตสาหกรรมหรือสนับสนุนการใช้แรงงานต่างด้าวด้วยการลดขั้นตอนการดำเนินการ