นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ประจำเดือน พ.ค.53 ว่า มี 3,502 ราย เพิ่มขึ้น 18% หรือ 524 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.52 ที่จดทะเบียนใหม่ 2,978 ราย และเพิ่มขึ้น 0.43% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.53 รวมเงินทุนจดทะเบียน 17,837 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุด ได้แก่ ธุรกิจบริการนันทนาการ เช่น ตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดหานักแสดง คาราโอเกะ รวม 824 ราย บริษัทก่อสร้าง 285 ราย และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 160 ราย ทำให้การจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-พ.ค.) 53 มีทั้งสิ้น 20,834 ราย เพิ่มขึ้น 5,081 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
สำหรับยอดจดทะเบียนเลิกกิจการในเดือนพ.ค.มี 742 ราย ลดลง 18% หรือ 163 รายเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.52 ที่มี 905 ราย รวมเงินทุนจดทะเบียน 4,014 ล้านบาท โดยธุรกิจที่จดทะเบียนเลิกสูงสุด ได้แก่ ก่อสร้าง 101 ราย, อสังหาริมทรัพย์ 34 ราย และบริการธุรกิจ 28 ราย ส่งผลให้ 5 เดือนแรก มีบริษัทจดทะเบียนคงอยู่ในประเทศไทย 545,097 ราย และบริษัทมหาชน 891 ราย รวมทั้งสิ้น 545,988 ราย
"แนวโน้มการจดทะเบียนในเดือนพ.ค.53 ยังคงขยายตัวเป็นบวกได้บ้าง แม้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง แสดงว่าภาคเอกชนยังเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจ และมองว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ แต่อาจไม่เร็วนัก จะเป็นลักษณะตัวยู เพราะผลกระทบจากการเมืองค่อนข้างแรง ทำให้หลังจากนี้รัฐจำเป็นต้องมีมาตรการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง" รมช.พาณิชย์ ระบุ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า แนวโน้มการตั้งบริษัทใหม่ครึ่งปีหลังนั้น จะขึ้นกับแนวโน้มเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศ เพราะถ้าหากในอนาคตไม่มีความวุ่นวายเหมือนการชุมนุมปิดแยกราชประสงค์อีก ประกอบกับรัฐเดินหน้าแผนปรองดองและปฏิรูปประเทศได้ ธุรกิจใหม่น่าจะเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ