กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 มิ.ย. พุ่งขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 472,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 450,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น เนื่องจากอุตสาหกรรมภาคการผลิต การก่อสร้าง และการศึกษา พากันลดอัตราการจ้างงาน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าจำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย
ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลดลง 500 ราย มาอยู่ที่ระดับ 463,500 ราย
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย หลังจากตัวเลขปรับตัวลดลงติดต่อกันหลายสัปดาห์ โดยในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มิ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 456,000 ราย
เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวงว่า จำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของสหรัฐ พร้อมกับเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์สนับสนุนการปล่อยเงินกู้ให้กับลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือ และเปิดทางให้ผู้ที่ต้องการกู้ยืมสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้น เพื่อที่ประชาชนจะสามารถขยายธุรกิจและเป็นการเพิ่มการจ้างงานในอีกทางหนึ่ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน