รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการออกพันธบัตรได้ 3.5 พันล้านยูโร (4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นการระดมทุนได้สูงสุดนับตั้งแต่มีการออกพันธบัตร และช่วยลดกระแสความวิตกกังวลที่ว่า สเปนอาจประสบความยากลำบากในการระดมทุนให้เพียงพอต่อการไถ่ถอนพันธบัตร ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรทั่วโลก รวมทั้งสกุลเงินยูโร ทะยานขึ้นด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลสเปนได้นำพันธบัตรอายุ 10 ปี มูลค่า 3 พันล้านยูโร ออกจำหน่ายโดยให้อัตราผลตอบแทน 4.864% แต่ยังน้อยกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรงวดที่นำออกประมูลเมื่อวันก่อนที่ระดับ 5.04% ซึ่งมีอัตราส่วนความต้องการซื้อต่อวงเงิน (bid-to-cover ratio) ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงดีมานด์ 1.89 เท่าของจำนวนพันธบัตรที่นำออกประมูล
นอกจากนี้ รัฐบาลสเปนยังได้นำพันธบัตรอายุ 30 ปี มูค่า 479.2 ล้านยูโร ออกจำหน่ายโดยให้อัตราผลตอบแทน 5.908% ซึ่งมีอัตราส่วนความต้องการซื้อต่อวงเงินอยู่ที่ระดับ 2.45 เท่าของจำนวนพันธบัตรที่นำออกประมูล สูงกว่าระดับ 1.38 เท่าของเมื่อครั้งที่นำพันธบัตรออกประมูลวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา
รัฐบาลซึ่งต้องเตรียมเงินมูลค่า 2.47 หมื่นล้านยูโรสำหรับการไถ่ถอนพันธบัตรในเดือนก.ค. กำลังสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่าทางรัฐบาลสามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในยูโรซนได้ อีกทั้งสามารถสนับสนุนกิจการธนาคารออมทรัพย์และพยุงเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้
ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดีดตัวขึ้นขานรับข่าวรัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรครั้งล่าสุด เนื่องจากข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินในยุโรป
เมื่อวานนี้ นายมิเกล อังเกิล เฟอร์นันเดส ออร์โดเนซ ผู้ว่าการธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า ธนาคารกลางสเปนเตรียมดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) หรือทดสอบความสามารถในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินของธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ และจะเปิดเผยผลการทดสอบเพื่อให้ตลาดได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการธนาคารของสเปน