รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจประจำเดือนมิ.ย.ในวันนี้ โดยได้ยกระดับคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่แสดงความกังวลว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงต้องพึ่งพาดีมานด์จากต่างประเทศและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นตัวอย่างยั่งยืนเต็มที่
"แม้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน แต่ญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก อาทิ อัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง" รายงานของสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่รัฐบาลประเมินว่าเศรษฐกิจ "ฟื้นตัว" นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่รัฐบาลประเมินว่าเศรษฐกิจ "กระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
นายเคอิซูเกะ ทสึมุระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อระดับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้วรัฐบาลยังคงมองว่าเศรษฐกิจอยู่ในระยะ "กระเตื้องขึ้น" มากกว่า "ฟื้นตัว" และเชื่อว่าเศรษฐกิจอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะไปถึงระยะฟื้นตัวอย่างยั่งยืนเต็มที่
นอกจากนี้ นายทสึมุระกล่าวว่า ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปและผลพวงที่เกิดขึ้นจากภาวะผันวผนในตลาดการเงินโลก ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน
ส่วนแนวโน้มตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนในภาคเอกชนซึ่งนายทสึมุระมองว่า เป็นปัจจัยสำคัญในการหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืนนั้น "อยู่ในระดับปกติ" จากเดิมที่ประเมินไว้ว่า "เริ่มเข้าสู่ระดับปกติ" ขณะเดียวกันรัฐบาลได้คงการประเมินอัตราการอุปโภคบริโภคว่า "กระเตื้องขึ้น" หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคส่งสัญญาณการฟื้นตัว และคาดว่าจะยังคงรักษาระดับดังกล่าวเอาไว้ได้ เพราะได้แรงหนุนจากนโยบายการให้ความช่วยเหลือด้านการเลี้ยงดูเด็กที่รัฐบาลเริ่มใช้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ รัฐบาลยังคงระดับการประเมินในภาคส่วนอื่นๆเอาไว้ โดยระบุว่าภาคส่งออกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่การผลิตในภาคอุตสาหกรรมกำลังกระเตื้องขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน