คณะผู้เชี่ยวชาญจากสหภาพยุโรป (อียู) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แสดงความพอใจต่อการดำเนินนโยบายด้านวินัยการคลัง มาตรการลดรายจ่ายอย่างเข้มงวด และการปฏิรูปต่างๆของรัฐบาลกรีซ
ตัวแทนคณะผู้เชี่ยวชาญกล่าวย้ำในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในกรีซว่า ข้อตกลงระหว่างอียูกับไอเอ็มเอฟที่มีขึ้นเมื่อเดือนพ.ค. เพื่อช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่กรีซนั้น ทำให้การแก้วิกฤตการคลังของกรีซที่เป็นปัญหามานานกว่า 3 ปีนั้นเดินมาได้ถูกทาง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังจากที่ตัวแทนจากอียูและไอเอ็มเอฟเสร็จสิ้นการเจรจาระยะเวลา 4 วันกับรัฐบาลกรีซแล้ว พวกเขาได้จัดการประชุมกับนายจอร์จ ปาปาคอนสแตนตินู รัฐมนตรีคลังของกรีซ และนายแอนเดรียส โลเวอร์ดอส รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานเพิ่มเติม เพื่อหารือถึงวิกฤตขาดดุลงบประมาณ และการปฏิรูประบบสวัสดิการสังคม รวมถึงระบบการจ่ายเงินบำนาญ
ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซให้คำมั่นว่าจะปรับลดยอดขาดดุลจากปัจจุบันนี้ที่อยู่ในระดับ 13.6% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ให้เหลือเพียง 8.1% ในปีหน้า ก่อนที่จะลดลงมาสู่ระดับต่ำกว่า 3% ภายในปี 2557 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากอียูและไอเอ็มเอฟเกรงว่า จีดีพีของกรีซอาจหดตัวลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 4% ในปีนี้ ขณะที่การขยายตัวของภาวะเงินเฟ้อยังน่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากอียูและไอเอ็มเอฟจะกลับมาหารือกันที่กรุงเอเธนส์ในปลายเดือนนี้อีกครั้งเพื่อตรวจสอบบัญชีการใช้จ่ายของกรีซ ก่อนที่จะเขียนรายงานเกี่ยวกับการเปิดเผยถึงมาตรการต่อไปในการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับกรีซ หลังจากที่กรีซได้รับเงินช่วยเหลือก้อนแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังระบุด้วยว่า การปฏิรูปเชิงโครงสร้างของกรีซก็เดินมาถูกทางด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงการปฏิรูประบบการจ่ายเงินบำนาญ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และการปรับปรุงตลาดแรงงาน ซึ่งในส่วนของนโยบายทางเศรษฐกิจนั้น ผู้เชี่ยวชาญแสดงความพอใจต่อการจัดตั้งกองทุนสนับสนุนภาคการเงินและธนาคาร พร้อมทั้งชี้ว่า สภาพคล่องในระบบยังคงมีอยู่ในระดับที่เหมาะสม