ธปท. มองศก.ไทยยังมีแรงส่งดี ความจำเป็นใช้อัตราดบ.ต่ำมีน้อยลง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 18, 2010 16:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวในหัวข้อ“ภาวะเศรษฐกิจไทย ครึ่งปี 53 และแนวโน้ม"ในงานสัมมนา SME ไทยในยุคเศรษฐกิจเสรีเอเชียว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะได้รับแรงหนุนตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าปีนี้และปีหน้าจะขยายตัวได้ปีละ 3% ทำห้ความจำเป็นในการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำมีน้อยลง

ประกอบกับ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย นโยบายการคลังที่ช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจใ นไตรมาสแรกปีนี้ซึ่งเติบโตสูงถึง 12% เป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังคือ ความไม่แน่นอนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมือง รวมถึงความกังวลเรื่องปัญหาภัยแล้งที่ปริมาณน้ำอยู่ในระดับต่ำมากเป็นพิเศษ เพราะฝนตกช้ากว่าปกติ ซึ่งต้องติดตามว่าปริมาณน้ำฝนช่วงเดือน ก.ค.นี้ จะมีปริมาณเพียงพอที่จะคลี่คลายสถานการณ์ได้แค่ไหน เพราะจะกระทบต่อการผลิตภาคเกษตรและการใช้จ่ายประชาชน อีกทั้งภาคธุรกิจยังมีความกังวลต่อปัญหาความไม่แน่นอนการเมืองและเศรษฐกิจที่สลับซับซ้อนพอสมควรจะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจมากกว่าต้นทุนทางการเงิน

“เศรษฐกิจไตรมาสแรกขยายตัวได้ดี น่าจะมีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ได้พอสมควรตามที่คาดไว้ 4.3-5.8%เพราะฉะนั้นความจำเป็นในการใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำพิเศษเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจก็มีน้อยลง" นายบัณฑิต กล่าว

รองผู้ว่าการธปท.ยังยอมรับว่า ยังมีธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ที่จำเป็นต้องใช้ดอกเบี้ยต่ำ โดยปัจจุบันเอสเอ็มอีมีต้นทุนภาระดอกเบี้ยต่อการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ 2-20% สะท้อนว่าผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวก ซึ่งภาครัฐและธปท.พยายามออกมาตรการมาช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ขณะที่ด้านการท่องเที่ยวไทยจะใช้เวลา 6 เดือนหรือ 2 ไตรมาส ในการการฟื้นตัวกลับมาเป็นอีกปัจจัยบวกที่ต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย ซึ่งการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวขึ้นกับ 2 ปัจจัย คือ การฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก และความเชื่อมั่นของต่างชาติที่มองไทย โดยเฉพาะปัญหาความรุนแรงของการเมือง ตลอดจนแรงกระตุ้นทางด้านนโยบายภาครัฐต่อการท่องเที่ยวได้มากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เช่น สึนามิ โรคระบาดไข้หวัดนก และเหตุการณ์ปฏิวัติ การท่องเที่ยวไทยจะใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 2 ไตรมาส หรือ 6 เดือน

ด้านนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร BBL กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่จำกัดเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพเท่านั้น ซึ่งหากสถานการณ์ทางการเมืองกลับสู่ภาวะปกติรัฐบาลก็ควรยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจ

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ BBL กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เฉลี่ยทั้งปีโต 4-5% แต่แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการค้าขายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งขณะนี้การค้าขายในภูมิภาคเอเชียขยายตัวดีมากน่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ ขณะเดียวกัน การลงทุนในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เป็นการลงทุนโครงการเดิมที่มีการขยายกำลังการผลิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ