สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานยอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านปอนด์ (2.38 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนพ.ค. ลดลง 8% จากระดับ 1.74 หมื่นล้านปอนด์ในเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจช่วยหนุนให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่หนี้สาธารณะอยู่ที่ 9.03 หมื่นล้านเยน ซึ่งคิดเป็น 62.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำสถิติเมื่อเดือนมี.ค.2536
ทั้งนี้ ตัวเลขที่ลดลงนี้ดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ และถือเป็นข่าวดีสำหรับนายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษ ก่อนที่เขาจะแถลงงบประมาณฉุกเฉินในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายมองว่าตัวเลขดังกล่าวยังสูงเกินไป และจะไม่เบี่ยงเบนความตั้งใจของนายออสบอร์นในการเร่งเดินหน้าแผนปรับลดการขาดดุลการคลัง
ในสัปดาห์หน้า รมว.คลังอังกฤษมีกำหนดที่จะเปิดเผยรายละเอียดของแผนการลดรายจ่ายครั้งใหญ่เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณซึ่งอยู่ที่ระดับ 11% ของจีดีพีในปีที่แล้ว ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษร่วงลงนับตั้งแต่ที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อหกสัปดาห์ก่อน จากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลผสมของเขาจะเร่งเดินหน้าลดยอดขาดดุล
โดยออสบอร์นกำลังถูกกดดันจากนักลงทุนและบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้ดำเนินการตามแผนการที่ประกาศไว้เพื่อลดยอดขาดดุลในขณะที่วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปเริ่มแผ่ขยายวงกว้าง