โดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เดินทางไปยังสเปนเพื่อร่วมประชุมกับรัฐบาลสเปนเกี่ยวกับสถานะการคลังของประเทศ ท่ามกลางข่าวลือแพร่สะพัดว่าสเปนเตรียมขอรับเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู) และไอเอ็มเอฟตามรอยกรีซ
ทั้งนี้ แม้อียูออกมาปฏิเสธอย่างแข็งขันต่อรายงานข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ อาทิ หนังสือพิมพ์เอล เอโคโนมิสต้า และ ไฟแนนเชียล ไทมส์ ดอยช์ลันด์ ว่า อียู ไอเอ็มเอฟ และกระทรวงการคลังสหรัฐ กำลังร่วมมือกันจัดหาสินเชื่อวงเงินสูงถึง 2.50 แสนล้านยูโรให้กับรัฐบาลสเปน แต่กระแสข่าวดังกล่าวก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรี โฮเซ หลุยส์ โรดริเกซ ซาปาเตโร ของสเปน ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวเช่นกัน พร้อมชี้แจงว่า เศรษฐกิจของสเปนแข็งแกร่งและมีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ ขณะที่การเดินทางเยือนสเปนของผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟก็เป็นเพียงการเดินทางตามแผนกำหนดการเท่านั้น
โดยการประชุมร่วมกันระหว่างนายซาปาเตโรและนายสเตราส์-คาห์นมีการกำหนดไว้ก่อนที่ข่าวลือจะเริ่มแพร่สะพัด ดังนั้นทั้งรัฐบาลสเปนและไอเอ็มเอฟจึงขอยืนยันว่า การประชุมครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าสเปนกำลังพยายามขอรับเงินกู้ ซึ่งเป็นเงินส่วนหนึ่งจากมาตรการฉุกเฉินมูลค่า 7.50 แสนล้านยูโร (9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ทางอียูและไอเอ็มเอฟทำข้อตกลงร่วมกัน
ทั้งนี้ สเปนและโปรตุเกส เป็นสองประเทศสมาชิกยูโรโซนที่ถูกมองว่าอาจจะร้องขอความช่วยเหลือด้านการเงิน เนื่องจากเผชิญหาหนี้สาธารณะแบบเดียวกันกับกรีซ โดยรัฐบาลสเปนเพิ่งประกาศใช้มาตรการลดรายจ่ายที่มีความเข็มงวดและปฏิรูปตลาดแรงงาน เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดการเงินว่าสเปนสามารถควบคุมหนี้สินและยอดขาดดุลงบประมาณได้
นอกจากนี้ ล่าสุด ธนาคารกลางสเปนยังได้เปิดเผยว่า ธนาคารจะเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) หรือทดสอบความสามารถในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินของธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ เพื่อแสดงความโปร่งใสและเป็นข้อพิสูจน์ว่า การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารของสเปนจะล้มละลายนั้นไม่มีมูลความจริง
อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะเผชิญปัญหาและข่าวลือถาโถม แต่รัฐบาลสเปนก็ยังได้รับกำลังใจจากบรรดาผู้นำอียูที่ออกมาชื่นชมมาตรการลดรายจ่ายและการปฏิรูปต่างๆของรัฐบาลสเปน พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสเปนจะสามารถรับมือกับวิกฤตได้