ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดในสัปดาห์หน้า (21-25 มิ.ย.)เงินบาทในประเทศอาจเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 32.30-32.60 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ สัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธปท. และทิศทางของสกุลเงิน/ตลาดหุ้นในภูมิภาค
ขณะที่ ทิศทางของเงินดอลลาร์ฯ อาจยังคงขึ้นอยู่กับผลการประชุมเฟด (22-23 มิ.ย.) ประเด็นเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ในยุโรป รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่-บ้านมือสองเดือนพ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.รายงานโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 1/2553 (ครั้งสุดท้าย) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทในประเทศ ทรงตัวใกล้ 32.40 บาท/ดอลลาร์ฯ หลังแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามทิศทางสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ของนักลงทุนเพื่อทำกำไร กระนั้นก็ดี การแข็งค่าของเงินบาทเริ่มชะลอลงในช่วงต่อมา แม้ว่าสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคจะยังคงทยอยแข็งค่าต่อเนื่องได้อีกก็ตาม
ทั้งนี้ เงินบาทแกว่งตัวอยู่ใกล้ระดับ 32.40 บาท/ดอลลาร์ฯ ตั้งแต่ในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ บางส่วน ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า เป็นการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธปท. สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทขยับแข็งค่ามาปิดตลาดปลายสัปดาห์ที่ระดับ 32.38 เทียบกับระดับ 32.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (11 มิ.ย.)
อนึ่ง ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท. กล่าวในช่วงท้ายสัปดาห์ว่า ไทยยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการดูแลเงินทุนอย่างเช่นในอินโดนีเซีย โดยการเคลื่อนย้ายเงินทุนในไทยยังเป็นปกติ แต่ทางการไทยก็จะติดตามการดำเนินการของประเทศอื่นๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป