นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐมีแนวโน้มร่วงลง 19% มาอยู่ที่ระดับ 410,000 ยูนิต/ปี เนื่องจากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาลหมดอายุลง จึงทำให้ประชาชนขาดแรงจูงใจในการเข้าซื้อที่อยู่อาศัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ในวันพุธที่ 23 ม.ย.นี้
ส่วนในเดือนเม.ย. ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 504,000 ยูนิต/ปี ซึ่งถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2551 และสูงกว่าระดับ 430,000 ยูนิต/ปีที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากชาวอเมริกันแห่ทำสัญญาซื้อบ้านใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.อาจปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% ซึ่งจะเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากการขยายตัวด้านการลงทุนในภาคเอกชนและยอดขายในต่างประเทศจะช่วยกระตุ้นดีมานด์สินค้าทีมีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี รวมถึงคอมพิวเตอร์และเครื่องจักร โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.ในวันพฤหัสบดีที่ 24 มิ.ย.นี้