จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษเปิดเผยว่า เขาจะขึ้นภาษีกับธนาคารและผู้ฝากเงิน ขณะเดียวกันก็จะลดการใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมในการแถลงงบประมาณวันพรุ่งนี้ เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
รมว.คลังอังกฤษ กล่าวว่า การควบคุมการใช้จ่ายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปีจะกินระยะเวลาตลอดวาระการทำงาน 5 ปีของรัฐสภา โดยอังกฤษไม่สามารถปล่อยให้หนี้สูงขึ้นมากไปกว่านี้ได้ เพราะความเสี่ยงสูงสุดสำหรับเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ก็คือ ความเสี่ยงเรื่องหนี้สาธารณะ
ทั้งนี้ แผนการลดรายจ่ายอย่างเข้มงวดดังกล่าว ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลผสมภายใต้การนำของพรรคอนุรักษ์นิยมได้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่บริหารประเทศเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อนนั้น จะกำหนดขนาดของงบประมาณของประเทศ โดย Institute for Fiscal Studies ซึ่งเป็นสถาบันอิสระที่ดำเนินการศึกษาด้านการคลัง ประเมินว่า รมว.คลังอังกฤษจะลดงบประมาณลง 8.5 หมื่นล้านปอนด์ (1.26 แสนล้านดอลลาร์) หรือคิดเป็น 5.7% ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)