สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.ดิ่งลง 2.2% สู่ระดับ 5.66 ล้านยูนิต/ปี บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงมีท่าทีระมัดระวังแม้รัฐบาลประกาศใช้นโยบายสร้างแรงจูงใจ รวมถึงการลดหย่อนภาษีก็ตาม
ข้อมูลของ NAR ระบุว่า การร่วงลงของยอดขายบ้านมือสองในรัฐแถบตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายบ้านมือสองโดยรวมในเดือนพ.ค.ร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ยอดขายบ้านในเขตมิดเวสต์ทรงตัว อย่างไรก็ตาม ยอดขายบ้านในภูมิภาคฝั่งตะวันตกดีดตัวขึ้นเกือบ 5% และยอดขายบ้านในภูมิภาคตอนใต้ขยับขึ้น 0.5%
ส่วนสต็อกบ้านมือสองที่ยังไม่ปิดดีลการขายนั้น ปรับตัวลดลง 3.4% สู่ระดับ 3.9 ล้านยูนิต ขณะที่ราคากลางของบ้านมือสองในเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 179,000 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.7% กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐมีแนวโน้มร่วงลง 19% มาอยู่ที่ระดับ 410,000 ยูนิต/ปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน