รมว.คลังอังกฤษประกาศมาตรการลดรายจ่าย-ขึ้นภาษีครั้งใหญ่เพื่อลดยอดขาดดุลภายใน 5 ปี

ข่าวต่างประเทศ Wednesday June 23, 2010 07:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ประกาศมาตรการลดรายจ่ายและขึ้นภาษีครั้งใหญ่เพื่อลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ลงมาให้ได้ภายในปีงบประมาณ 2558-59 ระบุเป็นการดำเนินการที่รุนแรงแต่ยุติธรรม และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

โดยในการแถลงงบประมาณต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรกของรัฐบาลผสมชุดใหม่วานนี้ ออสบอร์นกล่าวว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการเด็ดขาดในการจัดการกับหนี้สาธารณะ โดยจะพยายามเน้นไปที่การลดรายจ่ายมากกว่าการขึ้นภาษี พร้อมเผยว่า รัฐบาลจะตัดรายจ่ายประจำเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านปอนด์ (4.4 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อปีภายในปีงบประมาณ 2557-2558

นายออสบอร์นซึ่งเป็นรมว.คลังที่หนุ่มที่สุดของอังกฤษในรอบกว่าร้อยปีกล่าวว่า รายจ่ายประจำของอังกฤษจะเพิ่มขึ้นจาก 6.37 แสนล้านปอนด์ (9.44 แสนล้านดอลลาร์) ในปีงบประมาณ 2553-54 เป็น 7.11 แสนล้านปอนด์ (1,053 พันล้านดอลลาร์) ในปีงบ 2558-59 ซึ่งเป็นผลมาจากรายจ่ายดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันยอดขาดดุลของอังกฤษอยู่ที่ 1.55 แสนล้านปอนด์ (2.30 แสนล้านดอลลาร์) ส่วนหนี้สาธารณะอยู่ที่ 9.03 แสนล้านปอนด์ (1,339 พันล้านดอลลาร์) หรือเท่ากับ 62.2% ของจีดีพี ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2536

สำหรับมาตรการเพื่อลดยอดขาดดุลของรัฐบาลชุดนี้รวมถึงการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 17.5% เป็น 20% และลดรายจ่ายด้านสวัสดิการ

เงินสงเคราะห์เลี้ยงดูเด็กและรายจ่ายภาคสาธารณะจะถูกระงับ และจะมีการลดรายจ่ายด้านบริการสาธารณะลง 25% แต่แอลกอฮอล์ บุหรี่ และเชื้อเพลิงรอดพ้นจากการถูกขึ้นภาษีในครั้งนี้

รมว.คลังกล่าวว่า ทุกคนจะต้องได้รับผลกระทบจากมาตรการเหล่านี้ แต่ผู้ที่มีรายได้ต่ำจะจ่ายในสัดส่วนที่น้อยกว่าผู้ที่มีรายได้สูง นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำของผู้ที่ต้องเสียภาษี ซึ่งจะทำให้ประชาชนราว 900,000 คนได้รับการยกเว้นการเก็บภาษี

สำหรับรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้มาตรการลดยอดขาดดุลครั้งใหญ่นั้น นายออสบอร์นไม่ได้เปิดเผยในการแถลงงบประมาณเมื่อวานนี้ แต่จะมีการเปิดเผยในรายงานทบทวนการใช้จ่ายในวันที่ 20 ต.ค.

การแถลงงบประมาณของนายออสบอร์นเป็นการทำตามคำมั่นสัญญาที่พรรคอนุรักษ์นิยมเคยให้ไว้ก่อนการเลือกตั้งว่า จะจัดทำงบประมาณให้ได้ภายใน 50 วันนับจากวันเข้ารับตำแหน่ง

รัฐบาลกล่าวว่าหากไม่เร่งลดตัวเลขขาดดุลที่มีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคแรงงาน ความเชื่อมั่นในตลาดอังกฤษจะถูกทำลาย และจะก่อให้เกิดปัญหาทางการเงินที่ย่ำแย่กว่าเดิมในอนาคต ซึ่งขัดกับพรรคแรงงานที่กล่าวว่า เศรษฐกิจอังกฤษไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มข้นเช่นนี้ และมาตรการนี้อาจทำให้เศรษฐกิจอังกฤษกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานรับผิดชอบงบประมาณ (Office for Budget Responsibility : OBR) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งใหม่ของอังกฤษ ได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นขยายตัว 2.6% ในปี 2554 ซึ่งลดลงจากระดับ 3.25% ที่รัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ จากพรรคแรงงานได้ประเมินไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ