ผู้บริหารไบเออร์ไทยรุดเข้าพบ รมว.อุตสาหกรรมคนใหม่ ทวงถามความชัดเจนถึงแนวทางการแก้ปัญหากรณีศาลปกครองสั่งชะลอโครงการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด หลังโครงการของบริษัทติดร่างแหไปด้วยและมีแผนลงทุนเพิ่มอีก 5 พันล้านบาท โดยรัฐบาลยืนยันว่าทุกโครงการจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ภายในสิ้นปีนี้
"ทางไบเออร์มีความเป็นห่วงระยะเวลาการดำเนินการแก้ปัญหามาบตาพุดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสองของรัฐบาล เนื่องจากไบเออร์มี 2 โครงการที่ถูกคำสั่งศาลปกครองระงับดำเนินกิจกรรมชั่วคราว" นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังนายโดมินิคัส ฟอน เพสคาโทเร กรรมการผู้จัดการบริษัท ไบเออร์ไทย เข้าพบ
สำหรับโครงการของไบเออร์ ประกอบด้วย โครงการขยายกำลังการผลิตบีส-ฟีนอล เอ กำลังการผลิต 275,000 ตันต่อปี และโครงการขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก ชนิดโพลีคาร์บอเนต กำลังการผลิต 280,000 ตันต่อปี โดยขณะนี้ทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ(เอชไอเอ) เพื่อเตรียมความพร้อมเดินหน้าการลงทุน
รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าทั้งสองโครงการไม่น่าจะเข้าข่ายอยู่ในประเภทกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม 18 ประเภทกิจการที่คณะกรรมการ 4 ฝ่าย เพื่อแก้ปัญหามาบตาพุดจัดทำขึ้น และรัฐบาลยืนยันว่าแนวทางแก้ปัญหามาบตาพุดจะมีความชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยทุกโครงการจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ไบเออร์ไทยยังมีแผนลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจโพลิคาร์บอเนตอีก 3 โครงการ ซึ่งอยู่ระห่วางการตัดสินใจว่าจะลงทุนในไทยหรือจีน เนื่องจากยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหามาบตาพุดจากรัฐบาล ดังนั้นหากไทยสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้รวดเร็วก็มีแนวโน้มที่ไบเออร์จะลงทุนเพิ่มเติมในไทย ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท