สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ร้องขอเพิ่มที่นั่งกรรมการในคณะกรรมการกิจการสื่อสารและโทรคมนาคม(กสทช.)เพิ่มเป็น 4 คนจากปัจจุบันให้ 2 คน ที่มาจากสื่อวิทยุ 1 คน และ สื่อโทรทัศน์ 1 คน ตามร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม พร้อมขออิสระในการปฏิรูปตัวเอง ไม่ต้องการให้รัฐเข้ามาครอบงำ
"เราขอไป วิทยุ 2 คน โทรทัศน์ 2 คน...แต่ปรากฎว่ามีที่นั่งกรรมการให้กับผู้ปฏิบัติตัวจริงน้อยมาก ไม่ควรกีดกันผู้ประกอบวิชาชีพ เพราะเป็นกลุ่มที่รู้ปัญหาจริง"นางจำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี นายกสมาพันธ์ฯ กล่าว
นางจำนรรค์ กล่าวว่า การมองว่าหากนำผู้ประกอบวิชาชีพเข้ามาเป็นกรรมการจะทับซ้อนผลประโยชน์หรืออาจจะเอื้อกับธุรกิจ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ขอให้มองกันอย่างสุจริตใจ เพราะทางสมาพันธ์ฯก็ต้องคัดบุคคลเข้ามาทำงานที่ดีที่สุด ไม่อยากให้มาระแวงกัน
ขณะที่มองว่า สัดส่วนกรรมการ กสทช.ที่มาจากกลุ่มนักวิชาการ กลุ่มประชาชนหรือเอ็นจีโอ และ กลุ่มนักกฎหมาย มีมากเกินไป หากต้องการออกกฎเกณฑ์ควรจะมีผู้ปฏิบิตหรือประกอบวิชาชีพนี้จริงจะเหมาะสมกว่า
นอกจากนี้ ตามเกณฑ์ของ ร่าง พ.ร.บ.ใหม่ กำหนดให้บุคคลที่ลงสมัครเพื่อรับการสรรหาเป็นกรรมการ กสทช. ต้องออกจากงานที่เกี่ยวข้อง 1 ปีนั้น มองว่าประเด็นนี้ก็เป็นข้อจำกัดด้วย และสมาพันธ์ฯคงคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมยากขึ้น
นางจำนรรค์ กล่าวว่า ทางสมาพันธ์ฯ ต้องการปฏิรูปตัวเองและมีความพร้อมที่จะปฏิรูปอยู่แล้วโดยไม่จำเป็นที่ภาครัฐเข้ามาครอบงำ ออกคำสั่ง หรือบีบบังคับ และ เห็นด้วยที่จะนำกฎหมายใหม่ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ให้เร็วที่สุด
ที่ผ่านมา ผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุโทรทัศน์ตระหนักบทบาทและมีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนารูปแบบรายการหรือการทำงานให้ดีและรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น และจะเร่งจัดทำสภาวิชาชีพเป็นของตัวเองตามที่กฎหมายใหม่ระบุไว้ด้วย