สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งรายงานดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.ร่วงลงด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 6.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,234.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,225.20 - 1,247.40 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 44.30 เซนต์ ปิดที่ 18.459 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 5.6 เซนต์ ปิดที่ 2.9545 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 26 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,567.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 15.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 474.35 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ค.ร่วงลง 32.7% มาอยู่ที่ระดับ 300,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 410,00 ยูนิต เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการซื้อบ้าน ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาลได้หมดอายุลงในเดือนเม.ย.
รายงานยอดขายบ้านใหม่ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.ดิ่งลง 2.2% สู่ระดับ 5.66 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงมีท่าทีระมัดระวังแม้รัฐบาลประกาศใช้นโยบายสร้างแรงจูงใจ รวมถึงการลดหย่อนภาษีก็ตาม
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำแท่ง 1,313.135 ตันในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 22 มิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.172 ตันจากระดับของวันที่ 17 มิ.ย.