ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง หลัง FED ตรึงดอกเบี้ย-ระบุหนี้ยุโรปกระทบเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 24, 2010 07:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0 - 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ เฟดยังระบุว่าวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.77% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 89.840 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 90.540 เยน และดิ่งลง 0.25% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.1045 ฟรังค์ จากระดับ 1.1073 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.38% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2313 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2266 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.98% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4952 ปอนด์ จากระดับ 1.4807 ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.8730 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.8724 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.14% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.7128 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7048 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากเฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งนักลงทุนกังวลว่าการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไว้นานเกินไปอาจทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังถูกกดดันจากการที่เฟดระบุว่า วิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรปส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น พร้อมกับชี้ว่าสภาวะในตลาดการเงินกำลังส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราการปล่อยกู้ของภาคธนาคารหดตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ค.ร่วงลง 32.7% มาอยู่ที่ระดับ 300,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 410,00 ยูนิต เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการซื้อบ้าน ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาลได้หมดอายุลงในเดือนเม.ย.

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. และกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาสแรกปีนี้ และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ