นายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการกำหนดราคาตั้งต้นประมูลใบอนุญาต 3.9G ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพราะเป็นการมุ่งสร้างรายได้ให้กับภาครัฐ มากกว่าที่จะให้น้ำหนักไปที่ผู้ใช้บริการ
รวมทั้ง เห็นว่าคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)ควรจะเปิดประมูลใบอนุญาตพร้อมกันทั้งหมด แม้ว่าจะมีผู้ผ่านคุณสมบัติน้อยกว่าจำนวนใบอนุญาต และควรกำหนดขนาดของคลื่นความถี่แต่ละใบอนุญาตให้เท่ากันที่ 10 เมกะเฮิร์ตซ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในสิทธิการให้บริการ
"โดยรวมเห็นด้วยว่าต้องการให้เปิดประมูล 3 G ให้เร็วที่สุด แต่เห็นว่าราคาประมูลใบอนุญาตไม่ใช่มุ่งทำรายได้ให้ภาครัฐ ที่ราคาตั้งต้นสูง"นายสมประสงค์ กล่าว
นายสมประสงค์ กล่าวว่า การกำหนดราคาตั้งต้นในการประมูลใบอนุญาต ควรจะต้องอยู่บนพื้นฐานเหตุและผลที่ดี ส่วนการจัดประมูลใบอนุญาต 3 G ต้องเร่งดำเนินการต้องรีบให้เร็วไม่เช่นนั้นประเทศสูญเสียโอกาส เพราะกทช.3 คนจะหมดวาระในเดือนก.ย. นี้แล้ว ซึ่งจะกลายเป็นประเด็นอุปสรรคและข้อโต้แย้งหยิบยกมาให้การประมูล 3G ล่าช้าไปอีก
ขณะที่นายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ รองประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ราคาที่เหมาะสมของการประมูลใบอนุญาตควรตั้งต้นที่ 1.3 หมื่นล้านบาทตามที่ที่ปรึกษารายเดิมเคยตีราคาไว้ เพราะราคาที่ 1 หมื่นล้านบาทต่ำเกินไป และมองว่าแม้จะตั้งราคาตั้งต้นที่ 1.3 หมื่นล้านบาท ภาคเอกชนยังมีอัพไซต์ในการเติบโตอีกมาก และเห็นด้วยว่าให้ กทช.เปิดประมูลใบอนุญาตลในจำนวนน้อยกว่าผู้เข้าร่วมประมูล
"รายได้จากการประมูลแม้ตั้งราคาสูงก็ไม่ได้เป็นภาระแก่ประชาชนหรือทำให้ผู้ประกอบการเจ๊ง"นายสมเกียรติ กล่าว
ด้านนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค เห็นว่า การกำหนดราคาตั้งต้นที่ 1 หมื่นล้านบาท ไม่น่าจะมีผลทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น และเห็นว่า กทช.ควรกำหนดค่าบริการที่ 0.50 บาท/นาทีด้วย