ธนาคารกลางไต้หวันประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินกู้เพื่อการซื้อบ้าน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งธนาคารกลางมีเป้าหมายที่จะควบคุมการเก็งกำไรภายในประเทศ ในขณะเดียวกันก็มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
มาตรการดังกล่าวกำหนดว่า หากผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองไทเปหรือรอบเขตไทเปต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแห่งที่ 2 จะกู้ยืมเงินได้สูงสุดเพียง 70% ของราคาอสังหาริมรัพย์เท่านั้น จากเดิมที่สามารถกู้ยืมได้สูงถึง 80 หรือ 90% ของราคาอสังหาริมทรัพย์
นางซู เชีย-ซิน นักวิเคราะห์จากบริษัท เอสแอนด์บี บิสิเนส กรุ๊ป ซึ่งเป็นนายหน้าค้าอสังหาริมรัพย์ในไต้หวัน กล่าวว่า ราคาบ้านโดยเฉลี่ยในไต้หวันเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้ว สู่ระดับ 150,000 ดอลลาร์ไต้หวัน/ตารางเมตร (4,687 ดอลลาร์สหรัฐ)
"ราคาที่อยู่อาศัยได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน จึงทำให้ธนาคารกลางไต้หวันตัดสินใจใช้มาตรการควบคุมการเก็งกำไร" นางซูกล่าว
ธนาคารกลางไต้หวันประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเป็น 1.375% จากเดิมที่ระดับ 1.25% เมื่อวานนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจของประเทศทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนดีขึ้นมาก ขณะที่อัตราว่างงานก็ปรับตัวลดลง โดยการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ธนาคารคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์มาตั้งแต่เมื่อเดือนมี.ค. 2552 และยังเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่มองว่าธนาคารจะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไป
"การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางไต้หวันต้องการควบคุมการเก็งกำไร การกู้ยืมที่เป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้นจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนที่ต้องการเข้ามาเก็งกำไรในระยะสั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจสั่นคลอนตลาดที่อยู่อาศัยเนื่องจากนักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาด อย่างไรก็ตาม มาตรการของธนาคารกลางทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าตลาดยังคงมีสถานะที่แข็งแกร่ง" นางซูกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน