ไต้หวันหาลู่ทางทำข้อตกลงกับจีนเพื่อปกป้องบริษัทไต้หวัน หวั่นจีนขึ้นค่าเงินหยวนหนุนค่าแรงพุ่ง

นายเจียง ปิง-คุง ประธานมูลนิธิแลกเปลี่ยนสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ (Straits Exchange Foundation หรือ SEF ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ไต้หวันต้องการทำข้อตกลงกับรัฐบาลจีนในปีนี้ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทไต้หวันที่เข้าไปทำธุรกิจในจีน เนื่องจากต้นทุนด้านแรงงานของจีนกำลังเพิ่มขึ้น

ข้อเรียกร้องของนายเจียงมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่บริษัทไต้หวันกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากคนงานในโรงงานทางตอนใต้ของจีนพากันผละงานประท้วงเพื่อเรียกร้องค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การที่จีนปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่ามากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และกรณีที่พนักงานบริษัทฟอกซ์คอนน์ฆ่าตัวตายจนเป็นเหตุให้ทางบริษัทต้องปรับขึ้นค่าแรงถึง 2 ครั้งเพื่อสยบเสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้น ยิ่งทำให้บริษัทไต้หวันที่ทำธุรกิจในจีนถูกกดดันให้ต้องเพิ่มต้นทุนด้านการจ้างงานด้วย

ทั้งนี้ นายเจียงกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า "รัฐบาลไต้หวันต้องการหาลู่ทางที่จะทำข้อตกลงกับจีน เพื่อขอให้รัฐบาลจีนกำหนดเงื่อนไขทางธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทไต้หวันให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันบริษัทไต้หวันที่เข้าไปทำธุรกิจในจีนกำลังประสบปัญหามากมาย รวมถึงเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้น ค่าแรงคนงานในจีนที่สูงขึ้น ภาวะขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ และผลที่ตามมาของกรณีอื้อฉาวในบริษัทฟอกซ์คอนน์ ที่ทำให้บรรยากาศด้านการจ้างงานในจีนเปลี่ยนแปลงไป"

รายงานระบุว่า บริษัทไต้หวันที่เข้าไปทำธุรกิจในจีนมีอยู่กว่า 40,000 ราย และในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ บริษัทไต้หวันเข้าไปลงทุนในจีนเป็นมูลค่าอย่างน้อย 8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ