World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday June 28, 2010 06:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) อย่างไรก็ดี S&P 500 ดีดตัวตามหุ้นกลุ่มธนาคารที่ทะยานขึ้น เนื่องจากนักลงทุนรู้สึกเบาใจหลังจากที่สภาคองเกรสสามารถตกลงเรื่องกฎหมายปฏิรูปการเงินได้ในที่สุดและมีความผ่อนปรนมากกว่าที่หวั่นเกรงไว้ในตอนแรก ซึ่งข่าวดีสำหรับภาคการเงินดังกล่าวได้ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากการที่กระทรวงพาณิชย์ปรับลดการขยายตัวของจีดีพีไตรมาสแรกลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลงเล็กน้อย 8.99 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 10,143.81 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 3.07 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 1,076.76 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 6.06 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 2,223.48 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นปิดเหนือระดับ 78 ดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลว่า พายุลูกแรกในฤดูเฮอริเคนที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้บริเวณอ่าวเม็กซิโกซึ่งมีแท่นขุดเจาะน้ำมันและโรงกลั่นหลายแห่งตั้งอยู่นั้น อาจส่งผลให้อุปทานพลังงานตึงตัวได้ นอกจากนั้น ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.35 ดอลลาร์ หรือ 3.07% ปิดที่ 78.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเป็นวันที่สองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนั้น เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงยังช่วยดึงดูดความน่าลงทุนในโลหะมีค่าด้วย

สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 10.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,256.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,241.60 - 1,259.50

-- เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยินดีซื้อสกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าดอลลาร์สหรัฐ เช่น ยูโร และ ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่การเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ในครั้งก่อน ไม่เป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นมากนัก

เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.45% แตะ 1.2388 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2333 ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้น 0.14% แตะ 110.59 เยน จากระดับ 110.44 เยน ขณะที่เงินปอนด์ดีดขึ้น 0.96% แตะที่ 1.5071 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4927 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.30% แตะ 89.270 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 89.540 เยน, ลดลง 0.84% แตะ 1.0927 ฟรังค์สวิส จากระดับ 1.1020 ฟรังค์สวิส และอ่อนค่าลง 0.71% แตะ 1.0358 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0432 ในวันก่อน

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) หลังหุ้นบีพีดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี และหุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลงเนื่องจากความวิตกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวจะทำให้ความต้องการโลหะหดตัวลง

ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลดลง 53.76 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ 5,046.47 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ