(เพิ่มเติม) นายกฯ เผยจะเสนอครม.พรุ่งนี้พิจารณาขยายเวลาตรึงราคา NGV-LPG ออกไป

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 28, 2010 17:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า ที่ประชุมกพช.เห็นชอบให้มีการต่อายุมาตรการบรรเทาภาระของประชาชนในส่วนของก๊าซหุงต้ม (LPG) และ NGV รวมถึงจะมีการประสานกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรคกูเลเตอร์) เพื่อต่ออายุในส่วนของค่าไฟฟ้าออกไปอีก 6 เดือน โดยจะมีการเสนอคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) พร้อมทั้ง จะมีการพิจารณามาตรการต่ออายุมาตรการต่างๆ เช่น รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี

นอกจากนี้ ที่ประชุมวันนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาความเป็นไปได้ที่จะใช้นโยบายราคาช่วยเหลือประชาชน โดยอาศัยจากแหล่งที่ออกมาจากโรงแยกก๊าซเท่านั้น เนื่องจากคณะกรรมการฯได้พิจารณาปัญหาราคาก๊าซหุงต้ม ซึ่งพบว่าโรงแยกก๊าซทั้งในการนำไปใช้ในภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง มีปริมาณใกล้เคียงกันมาก แต่ยังติดขัดปัญหาส่วนของระบบโรงกลั่นหรือว่าปิโตรเคมีปริมาณการใช้มาก ก็จะให้ว่าไปตามโครงสร้างของกลไกราคาในตลาดโลก ซึ่งหากสามารถทำเช่นนี้ได้ ประชาชนในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่มีการใช้ก๊าซหุงต้มจะสามารถใช้ในราคาถูกได้ โดยไม่ต้องกระทบภาระเรื่องการชดเชยอีกต่อไป

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมกพช.เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านพลังงาน โดยให้ตรึงราคาขายปลีกก๊าชปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทั้งในส่วนของครัวเรือน การขนส่งและอุตสาหกรรม ไว้ที่ราคา 18.13 บาท/กิโลกรัม และตรึงราคาขายปลีกก๊าชธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) ไว้ที่ 8.50 บาท/กิโลกรัม ซึ่งทั้ง 2 มาตรการนี้จะมีผลเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 ถึงเดือนกุมภาพันธุ์ 2554

พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบตรึงค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นจะให้ทางการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณาร่วมกับเรคกูเลเตอร์ว่า จะตรึงราคาต่อไปหรือไม่ ซึ่งมาตรการต่างๆ ที่มีขึ้นเป็นการช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะเสนอมาตรการทั้งหมดให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาควบคู่กับมาตรการลดค่าครองชีพด้านรถไฟ รถเมล์ฟรีด้วย

ทั้งนี้การตรึงก๊าช LPG ต่อไปอีก 6 เดือนนั้น ในกรณีที่โรงแยกก๊าชธรรมชาติ หน่วยที่ 6 ยังไม่สามารถปล่อยก๊าชได้ เนื่องจากติดปัญหามาบตาพุดนั้น จะทำให้ในแต่ละเดือนจะมีการนำเข้า LPG ประมาณ 130,000-150,000 ตัน/เดือน ซึ่งคาดว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องใช้เงินรับภาระส่วนต่างราคานำเข้ากับในราคาประเทศประมาณ 1,800-2,200 ล้านบาท/เดือน

ขณะที่การตรึงราคา NGV นั้น กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องชดเชยต้นทุนให้กับ บมจ.ปตท. (PTT) 2 บาท/กิโลกรัม รวมประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 1,800-2,400 ล้านบาท ในช่วงเวลา 6 เดือน และการตรึงค่าเอฟทีออกไปอีก 6 เดือนนั้น จะส่งผลให้มีภาระชดเชยเงินให้กับ กฟผ.ประมาณ 6,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุม กพช. ยังได้เห็นชอบการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการรับซื้อเชื้อเพลิงหมุนเวียน โดยเปลี่ยนวิธีจากการให้ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า หรือ Adder เป็นการทำสัญญาเป็นกรณีตามประเภทเชื้อเพลิงเป็นแต่ละสัญญารายโครงการ หรือ Feed-in-tariff แทน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ