นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ว่า รฟท.จะรวมโครงการจัดหารถจักร 2 โครงการเป็นสัญญาเดียว วงเงินรวม 8,677 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า ขนาด 20 ตัน/เพลา จำนวน 13 คัน วงเงิน 2,145 ล้านบาท และโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทน จีอี 50 คัน วงเงิน 6,532 ล้านบาท
ทั้งนี้ รฟท.จะกำหนดเงื่อนไขให้เอกชนที่สนใจเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานประกอบรถจักรในประเทศด้วย โดยคาดว่าจะเสนอเรื่องดังกล่าวให้ ครม.พิจารณาภายในเดือน ก.ค.นี้ หาก ครม.เห็นชอบก็น่าจะเปิดประกวดราคาคัดเลือกเอกชนได้ภายในเดือน ก.ย.นี้
"เชื่อว่าเงื่อนไขที่จะเชิญชวนเอกชนเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานประกอบรถจักรในประเทศจะได้รับความสนใจจากเอกชน เนื่องจากมูลค่าโครงการค่อนข้างสูง และเมื่อรวมงานปรับปรุงหัวรถจักร 56 คัน วงเงินกว่า 3.3 พันล้านบาท รวมทั้งงานซ่อมบำรุงหัวรถจักรในอนาคต ก็ทำให้วงเงินรวมสูงกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะจูงใจให้เอกชนเข้ามาลงทุนได้แน่นอน"นายสุพจน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การตั้งโรงงานในประเทศไทยยังเป็นการส่งเสริมการใช้แรงงานและมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับคนไทย รวมทั้งยังมีการใช้วัสดุที่ผลิตภายในประเทศ เช่น สายไฟฟ้า กระจก และอุปกรณ์ตกต่างภายในต่างๆ ซึ่งหากสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านแรงงานคิดเป็น 20% ของโครงการ ก็คาดว่าน่าจะทำให้เงินอยู่ภายในประเทศประมาณ 1,700 ล้านบาท