สภาหอการค้าสหภาพยุโรปในจีนชี้การดำเนินธุรกิจในประเทศจีนถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศการค้าที่ไม่เป็นธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากรัฐบาลมักยื่นมือเข้าแทรกแซงตามอำเภอใจ ซึ่งทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ขาดความน่าดึงดูดใจในการดำเนินธุรกิจ
ผลสำรวจจากบริษัทยุโรป 500 แห่งในจีนระบุว่า 36% เชื่อว่านโยบายของรัฐบาลจีนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาขาดความเป็นธรรม ขณะที่มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากขึ้นมองว่า สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงในอนาคต
โดยบรรดานักธุรกิจแสดงความไม่พอใจเรื่องการเลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายและข้อบังคับต่างๆ รวมถึงการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่ได้มาตรฐาน และกระบวนการจดทะเบียนบริษัทต่างชาติ รวมไปถึงการออกวีซ่าและใบอนุญาตทำงานที่ขาดความโปร่งใส
ด้านประธานหอการค้าอียูออกโรงเตือนว่าปัจจัยดังกล่าวล้วนบั่นทอนความน่าดึงดูดใจด้านการดำเนินธุรกิจในตลาดจีน ซึ่งบริษัทยุโรปยังหวังที่จะให้จีนเป็นแหล่งลงทุนที่สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเสรี ท่ามกลางปัจจัยหนุนจากบรรยากาศการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใสและคาดเดาได้มากขึ้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หน่วยงานของรัฐบาลจีนปฏิเสธการควบรวมกิจการในกลุ่มบริษัทต่างชาติยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายครั้ง อาทิ กรณีที่รัฐบาลจีนปฏิเสธข้อเสนอของบริษัทโคคา-โคลา ในการเทคโอเวอร์กิจการบริษัท ไชน่า ฮุ่ยหยวน จูซ กรุ๊ป เป็นต้น