World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 1, 2010 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) หลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศเพิ่มการจ้างงานเพียงเล็กน้อย ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในเขตชิคาโกร่วงลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 96.28 จุด หรือ 0.98% แตะที่ 9,774.02 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 10.53 จุด หรือ 1.01% แตะที่ 1,030.71 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 25.94 จุด หรือ 1.21% แตะที่ 2,109.24 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจส่งผลให้ดีมานด์พลังงานหดตัวลงด้วย แม้กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงภาคเอกชนที่เพิ่มการจ้างงานน้อยกว่าคาด ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการเทขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 31 เซนต์ ปิดที่ 75.63 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 75.65 - 74.80 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเผชิญกับภาวะผันผวนและวิกฤตการณ์การเงินในยุโรปยังไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐ

สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 3.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,245.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,235.10 - 1,248.80 ดอลลาร์

-- ค่าเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าธนาคารพาณิชย์ในยุโรปกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยลดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการระดมทุนของธนาคารพาณิชย์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์และดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอของภาคเอกชนสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2226 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2179 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.80% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4940 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5060 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.16% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 88.400 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 88.540 เยน และร่วงลง 0.38% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0781 ฟรังค์ จากระดับ 1.0822 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.60% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8415 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.8466 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.88% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.6853 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6914 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคาร โดยนักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นในตลาดลอนดอนหลังจากมีรายงานว่าธนาคารพาณิชย์ในยุโรปกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยลดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการระดมทุนของธนาคารพาณิชย์

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 2.65 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 4,916.87 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ