มณฑลต่างๆของจีนอย่างน้อย 9 มณฑลจะเริ่มขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยปรับขึ้นสูงสุดถึง 1 ใน 3 หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุประท้วงของพนักงานมากไปกว่านี้
ก่อนหน้านี้ ได้เกิดเหตุประท้วงผละงานหลายครั้งที่โรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ในจีน อาทิ ฮอนด้า มอเตอร์ที่ต้องปิดโรงงานผลิต 2 แห่งที่เมืองกวางโจว ก่อนที่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่การผลิตที่โรงงานของโตโยต้าในจีนก็ได้รับผลกระทบจากการผละงานประท้วงของพนักงานที่โรงงานเดนโซ ผู้ผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงานโตโยต้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ความขัดแย้งเรื่องค่าแรงได้กระจายวงกว้างนับตั้งแต่ที่ฮอนด้าได้ตกลงขึ้นค่าแรงให้กับพนักงานที่บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอีก 24% เพื่อยุติการประท้วง ซึ่งการประท้วงที่โรงงานผลิตต่างๆสะท้อนให้เห็นถึงอุปทานแรงงานค่าแรงต่ำที่หดตัวลง
เหวิน เจียเป่า กังวลว่า ความขัดแย้งของพนักงานนี้จะนำไปสู่เหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในสังคม และได้เรียกร้องให้บริษัทต่างๆสร้างความสัมพันธ์ที่สมัครสมานสามัคคีในหมู่พนักงานด้วยการปรับขึ้นค่าแรงที่ละน้อย
หยิน เจิงจี โฆษกกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และประกันสังคมของจีน กล่าวว่า เทศบาลและมณฑลกว่า 20 แห่งของจีนวางแผนที่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีนี้ โดยเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน ได้สั่งให้มีการขึ้นค่าแรง 17% เป็น 1,120 หยวนต่อเดือนแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่กวางตุ้งซึ่งเป็นฐานการส่งออกใหญ่สุดของจีนก็ได้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย 21% โดยค่าแรงสูงสุดอยู่ที่ 1,030 หยวน