นายบุญช่วย เจียดำรงค์ชัย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. จะให้การสนับสนุนสินเชื่อในรูปของการรับจำนำผลผลิตและการลงทุนสร้างยุ้งฉางเพื่อเก็บผลผลิตและรอราคา ซึ่งการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวมีเกษตรกรซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกรทำนาเกลือจังหวัดเพชรบุรี แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากวงเงินสินเชื่อจำนวน 63,300,000 บาท จำแนกเป็นสินเชื่อรอการขาย 42,600,000 บาท และสินเชื่อเพื่อลงทุนสร้างและปรับปรุงยุ้งฉาง จำนวนเงิน 20,700,000 บาท โดยเริ่มจ่ายเงินกู้ให้แก่เกษตรกรได้ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ชาวนาเกลือโดยไม่ต้องเร่งรัดจำหน่ายเกลือออกสู่ตลาดในขณะที่ราคาต่ำ ณ ที่ว่าการอำเภอบ้านแหลม จ.เพชรบุรี
สำหรับเงื่อนไขการจ่ายสินเชื่อตามโครงการดังกล่าว ธ.ก.ส. จะให้กู้รายละไม่เกิน 600,000 บาท แยกเป็นสินเชื่อเพื่อรอการขายผลิตผลไม่เกินรายละ 300,000 บาท และสินเชื่อเพื่อลงทุนสร้างหรือปรับปรุงยุ้งฉางไม่เกินรายละ 300,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR หรือเท่ากับร้อยละ 6.75 ต่อปี
โดยคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) จะชดเชยดอกเบี้ยให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลา 8 เดือน ส่วนหลักประกันการกู้ใช้เกลือในยุ้งฉางเป็นหลักประกันและให้สมาชิกในกลุ่มที่ขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.ไม่น้อยกว่า 5 คน รับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม
เนื่องจากจังหวัดเพชรบุรีเป็นแหล่งผลิตเกลือทะเลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีพื้นที่การผลิตกว่า 36,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 62 ของพื้นที่ทำนาเกลือทั้งสิ้น 63,300 ไร่ มีผลผลิตออกสู่ตลาดปีละประมาณ 400,000 เกวียน จากทั้งประเทศ 650,000 เกวียน โดยเกลือทะเลออกสู่ตลาดพร้อมกันเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูแล้ง (มีนาคม — พฤษภาคม) ของทุกปี ทำให้ราคาตกต่ำ
ดังนั้น การชะลอการขายเกลือโดยเก็บรักษาไว้ในยุ้งฉางเพื่อรอจำหน่ายเมื่อราคาเหมาะสม จะช่วยแก้ปัญหาราคาตกต่ำให้กับเกษตรกรชาวนาเกลือได้
นอกจากนี้ หากโครงการดังกล่าวประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ธ.ก.ส. ยังมีนโยบายที่จะสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสร้างโอกาสให้แก่เกษตรกรในลักษณะเดียวกันนี้ เพื่อผลักดันราคาเกลือทะเลให้สูงขึ้น โดยพร้อมที่จะขยายการดำเนินการไปยังแหล่งอื่นด้วยเช่นกัน