นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ประกาศผลการทบทวนโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี)ของสหรัฐประจำปี 52 แล้ว โดยประเทศไทยมีสินค้าที่ถูกตัดสิทธิ 2 รายการ คือกุ้งปรุงแต่ง (กุ้งผสมปลา) และยางเรเดียลรถยนต์นั่ง เพราะส่งออกเกินเพดานที่สหรัฐฯกำหนด มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.53เป็นต้นไป
สำหรับกุ้งปรุงแต่งในปี 52 ไทยส่งออกไปสหรัฐมูลค่า 14.19 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 400 กว่าล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 65.63% แต่สหรัฐกำหนดเพดานส่วนแบ่งตลาดไม่เกิน 50% ของการนำเข้ากุ้งปรุงแต่งทั้งหมดในสหรัฐ ส่งผลให้กุ้งปรุงแต่งจากไทยต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯอัตรา 5%
ขณะที่ยางเรเดียลในปี 52 ไทยส่งออกไปสหรัฐมูลค่า 154.76 ล้านเหรียญฯ เกินเพดานขั้นสูงที่กำหนดให้ไม่เกิน 140 ล้านเหรียญฯ ทำให้ยางเรเดียลไทยเสียภาษีนำเข้า 4% แต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อการส่งออกไทยในภาพรวม เพราะมูลค่าการส่งออกน้อยมาก
"การถูกตัดสิทธิจะมีผลให้สินค้าไทยต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ จากเดิมได้รับการยกเว้นภาษี และจะทำให้สินค้าไทยแข่งขันกับคู่แข่งยากขึ้น ซึ่งน่าเสียดาย และในปีหน้าเราคงต้องทำเรื่องขอคืนจีเอสพีอีก" นางพรทิวากล่าว
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าไทยที่ได้รับคืนสิทธิอีก 9 รายการ คือ ดอกไม้สด, ทุเรียนสด, มะละกอตากแห้ง, มะขามตากแห้ง, ข้าวโพดปรุงแต่ง, มะลอกอแปรรูป, ซอสปรุงแต่งอาหาร, หนังกระบือฟอก และของใช้ในบ้านชนิดพอร์ซเลน และยังมีอีก 1 รายการที่สหรัฐฯคงสิทธิให้ไทยคือ เครื่องประดับทำจากเงิน