นางจูเลีย กิลลาร์ด นายกรัฐมนตรีหญิงของออสเตรเลียประกาศนโยบายเรื่องการจัดเก็บภาษีใหม่ หลังจากที่ได้เจรจากับบริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่จนไดข้อตกลงในลักษณะที่มีการประนีประนอมมากกว่าเดิม โดยนโยบายใหม่นี้ได้กำหนดให้มีการยกเลิกการเก็บภาษีกำไรพิเศษด้านทรัพยากรที่ 40% โดยรัฐบาลจะลดภาษีเหมืองแร่ลงเหลือ 30% ขณะที่ภาษีน้ำมันและก๊าซจะจัดเก็บที่ระดับ 40%
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ประกาศงดเว้นการจัดเก็บภาษีสินค้าโภคภัณฑ์ทุกรายการ นอกเหนือจากสินแร่เหล็กและถ่านหิน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยคลายความวิตกกังวลเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มเจ้าของโครงการผลิตโลหะพื้นฐานอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ นโยบายการจัดเก็บภาษีใหม่จะส่งผลกระทบต่อบริษัทลดลงแค่ 320 แห่ง จากเดิมที่มีจำนวนสูงถึง 2,500 แห่ง และข้อตกลงใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2555
นางกิลลาร์ดกล่าวว่า การปฏิรูปนโยบายภาษีในกลุ่มธุรกิจเหมืองแร่จะช่วยให้ออสเตรเลียสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งชาวออสเตรเลียจะมีรายได้จากการประกอบธุรกิจที่เป็นธรรมมากขึ้น หลังจากที่ประเด็นนี้กลายเป็นปัญหาในระดับประเทศมายาวนาน ดังนั้น วันนี้จึงถึงเวลาแล้วที่เราต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
การปฏิรูปนโยบายภาษีครั้งนี้จะช่วยยุติข้อขัดแย้ง ตลอดจนเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และปูทางไปสู่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในภาคอุตสาหกรรมเหมืองอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยตอกย้ำจุดยืนของออสเตรเลียในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนที่น่าดึงดูดใจ และมีบรรยากาศการแข่งขันสูงซึ่งเอื้อต่อความก้าวหน้าของประเทศ
อย่างไรก็ตาม นโยบายปฏิรูปภาษีทรัพยากรเหมืองฉบับใหม่นี้จะมีผลต่อมูลค่าของสินทรัพย์ในกลุ่มทรัพยากรมากกว่าที่จะส่งผลต่อรายได้ของผู้ประกอบการเหมือง ดังนั้น นโยบายดังกล่าวจึงอาจทำให้ผู้ประกอบการเรียกร้องเงินคืนในกรณีที่มูลค่าสินทรัพย์ปรับตัวลดลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน