ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว แต่ยังไม่เร็วพอ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง แต่ตัวเลขจ้างงานก็ลดลงด้วยเช่นกัน
กระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของสหรัฐในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลงแตะ 9.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 9.7% ในเดือนพ.ค. แต่การปรับตัวลงดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ประชาชนจำนวนมากเลิกหางาน ซึ่งประชาชนที่ไม่หางานทำจะไม่ถือเป็นผู้ว่างงาน ขณะเดียวกัน การจ้างงานในเดือนที่แล้ว ลดลง 125,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหกเดือนที่นายจ้างในสหรัฐลดการจ้างงาน
โอบามากล่าวว่า โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจได้สร้างงานเพิ่มขึ้นในปีนี้ พร้อมให้คำมั่นว่าจะยังคงเดินหน้าช่วยผู้ว่างงานให้มีงานทำ
"สำหรับชาวอเมริกันทุกคนที่กำลังหางานทำ ผมขอสัญญากับพวกคุณว่า เรากำลังทำทุกอย่างที่ทำได้ ผมจะทำทุกอย่างด้วยอำนาจหน้าที่ของผมเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของเราสร้างงานและโอกาสสำหรับประชาชนทุกคน" ผู้นำสหรัฐกล่าว
ขณะที่คริสตินา โรเมอร์ ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า รายงานตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย. ถือเป็นการส่งสัญญาณต่อเนื่องถึงการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของตลาดแรงงาน โดยเธอเน้นไปที่การจ้างงานในภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น 83,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงกว่านี้ที่ 110,000 ตำแหน่ง มีมุมมองที่ต่างออกไปว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อาจชะลอตัว เนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มที่จะมีผลน้อยลงในยามที่ปัจจัยแวดล้อมเศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ในสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเพิ่งปรับทบทวนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกปีนี้ เหลือเพียง 2.7% จากเดิมที่ 3.0%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดแรงงานยังเป็นความท้าทายหลักสำหรับคณะทำงานของโอบามาและพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย.นี้
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อสู้กับการว่างงาน โอบามาได้ประกาศวานนี้ถึงการลงทุนในโครงการใหม่ 66 โครงการเพื่อสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ บรอดแบนด์ในชุมชนสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานราว 5,000 ตำแหน่ง