นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในที่ประชุมเศรษฐกิจที่มณทลเหอหนาน ว่า นโยบายเศรษฐกิจมหภาคของจีนกำลังเผชิญกับปัญหามากขึ้น อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์การเงินในต่างประเทศและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
"แม้เศรษฐกิจของจีนยังคงแข็งแกร่งในขณะนี้ แต่สภาวะโดยทั่วไปของเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศมีความซับซ้อนมาก เรายอมรับว่านโยบายเศรษฐกิจมหาภาคของเรากำลังเผชิญกับปัญหาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การเงินและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั่วโลก"นายหวินกล่าว
ถึงกระนั้นก็ตาม นายเหวินย้ำว่ารัฐบาลจีนจะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายเศรษฐกิจมหาภาคฉบับปัจจุบันต่อไป แต่จะปรับนโยบายให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและหวังผลมากขึ้น
นอกจากนี้ นายเหวินยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจีนยังคงสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และควบคุมเงินเฟ้อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะไปถึงเป้าหมายประจำปี 2553
การแสดงความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีจีนมีขึ้นหลังจากสมาพันธ์ลอจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีนเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของภาคการผลิตในประเทศจีน อยู่ที่ระดับ 52.1 จุดในเดือนมิ.ย. ลดลง 1.8% จากเดือนพ.ค. และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 53.2 จุด
แม้ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดเป็นเวลา 16 เดือนติดต่อกัน แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.เคลื่อนไหวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้น บ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนมาถึงจุดสูงสุดแล้ว และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน