ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนมีแนวโน้มเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และอัตราการขยายตัวของ CPI ตลอดทั้งปีจะยังคงเคลื่อนไหวภายใต้เพดาน 3% แม้ดัชนีอาจไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในเดือนกรกฎาคม
จู เป๋าเหลียง ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ข้อมูลแห่งชาติของจีนกล่าวว่า จีนจะยังคงเผชิญกับปัจจัยด้านเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น การปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าจะเกิดขึ้นได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศเริ่มอ่อนตัวลงมา ซึ่งภาวะเช่นนี้ทำให้จีนรอดพ้นจากปัญหาเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จีนจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อจากปัจจัยภายนอก เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงซับซ้อนท่ามกลางวิกฤตสินเชื่อในยุโรป ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกผันผวน
นอกจากนี้ การลงทุนในสินทรัพย์คงที่จะลดลงจากระดับสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสินทรัพย์ทางการค้า ตลอดจนการลงทุนในโครงการที่ปล่อยมลพิษสูงและมีการใช้พลังงานมหาศาลนั้นดำเนินการภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดจากนโยบายควบคุมด้านเศรษฐกิจมหภาค
อย่างไรก็ตาม นายจูคาดว่ายอดค้าปลีกจะยังคงขยายตัวได้ดีในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้เล็กน้อย และยอดเกินดุลการค้าจะปรับตัวลดลง
สำหรับราคาอาหารซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนดัชนี CPI ของจีนในช่วงต้นปีเริ่มปรับตัวลดลง โดยราคาผักสดในเดือนพ.ค.ดิ่งลง 9.8% ส่วนราคาข้าวเริ่มมีเสถียรภาพและค่อยๆปรับตัวลดลง ขณะที่ราคาธัญพืชในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยลดระดับคาดการณ์เรื่องการพุ่งขึ้นของราคาสินค้า อย่างไรก็ดี นายจูมองว่า ผลผลิตธัญพืชและผลผลิตเนื้อสุกรที่ล้นตลาดอาจช่วยควบคุมราคาสินค้าได้ในระยะสั้นๆ แต่ต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้อาหารมีราคาแพงขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน