นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ว่า ที่ประชุมวันนี้มีมติในการแก้ไขปัญหาตามมาตรา 67 วรรค 2 ในพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยอยากให้รัฐบาลเร่งออกประกาศ 18 กิจการที่มีความรุนแรง เพื่อให้เกิดความชัดเจนตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน หลังประเทศไทยได้รับผลกระทบในหลายด้าน
ด้านนายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้เตรียมจัดตั้งคณะทำงานด้านแรงงาน สำหรับแผนพัฒนาแรงงานที่ไม่มีประสบการณ์(Unskill Labor) เพื่อพิจารณาปรับโครงสร้างค่าแรงสำหรับแรงงานที่ด้อยฝีมือ โดยคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มเพื่อให้สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 5-10% และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม
สำหรับคณะทำงานชุดดังกล่าวจะศึกษาแต่ละอุตสาหกรรม คาดว่าจะประมวลข้อมูลแต่ละอุตสาหกรรมเสร็จภายใน 3 เดือน โดยเป็นไปได้ที่จะจ่ายค่าจ้างสูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำประมาณร้อยละ 5-10 โดยมี ส.อ.ท.เป็นแกนนำการจ่ายค่าจ้างสูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำให้แรงงานไร้ฝีมือ หวังจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง และหากเป็นงานที่นับชิ้นงานก็พิจารณาเร็วกว่า ซึ่งทางคณะทำงานคงต้องเชิญกระทรวงแรงงานเพื่อพิจารณาการปรับเพิ่มค่าจ้างแก่แรงงานไร้ทักษะฝีมือ หากจำเป็นก็ยินดีที่จะฝึกทักษะเพิ่มเติมให้กับแรงงานเหล่านั้น