คาร์ฟูร์ เชนห้างค้าปลีกสัญชาติฝรั่งเศส และเทสโก้ ห้างค้าปลีกจากอังกฤษจะยุติการซื้อสินค้าจากบริษัท Sinar Mas Group ยักษ์ใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจการเกษตรของอินโดนีเซีย หลังกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกรีนพีซกล่าวหาว่า บริษัทดังกล่าวยังคงดำเนินธุรกิจที่ส่งผลให้มีการตัดไม้ทำลายป่าภายในประเทศ
บัสตาร์ ไมทาร์ แนวร่วมกลุ่มอนุรักษ์ป่าไม้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกรีนพีซกล่าวว่า "คาร์ฟูร์ได้ยืนยันกับเราว่าบริษัทจะยุติการซื้อสินค้าของ Asia Pulp and Paper (APP) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์กระดาษในเครือ Sinar Mas Group เช่นเดียวกับเทสโก้ที่จะยกเลิกการซื้อสินค้าจากบริษัทดังกล่าวในสิ้นปีนี้ หากบริษัทและซัพพลายเออร์ยังไม่เปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจ"
ขณะเดียวกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทคราฟท์ ฟูดส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกกล่าวว่า บริษัทจะเริ่มลดจำนวนการซื้อผลิตภัณฑ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์ของ APP จนกว่าบริษัทแม่จะให้ความชัดเจนเรื่องการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศ รวมถึงสามารถหาวัสดุที่ยั่งยืนมาใช้ในการผลิตกระดาษแทนได้
นอกจากนี้ ยูนิลิเวอร์ และเนสท์เล่ ได้ยุติการทำสัญญาน้ำมันปาล์มกับ Pt Smart Tbk ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มของ Sinar Mas Group หลังจากที่บริษัทดังกล่าวรุกแผ้วถางป่าดงดิบเพื่อปลูกต้นปาล์มน้ำมัน ซึ่งล่าสุดบริษัทมีแผนที่จะกว้านซื้อพื้นที่ป่าเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์และถ่านหินเลนใต้ดินแห่งใหม่เพื่อใช้เป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้น
ทั้งนี้ แม้กำลังการผลิตโดยรวมของโรงงานผลิตเยื่อกระดาษ 2 แห่งของบริษัทบนเกาะสุมาตรา อยู่ที่ 2.6 ล้านตันต่อปีในปี 2549 แต่เอกสารของ Sinar Mas ระบุว่า APP ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อขอให้โรงงานดังกล่าวเพิ่มกำลังเป็น 17.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าจากกำลังการผลิตเยื่อกระดาษของ APP ในอินโดนีเซีย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน