โชกรี กาเนม ประธานบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย เปิดเผยว่า เขาจะแนะนำให้กองทุนความมั่งคั่งของลิเบียเข้าซื้อหุ้นในบริษัทบีพี ซึ่งกำลังประสบปัญหาภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากเหตุการณ์น้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทไหลทะลักลงสู่อ่าวเม็กซิโกเป็นปริมาณมหาศาล ชี้มูลค่าหุ้นบีพีในตอนนี้เหมาะแก่การซื้อเพื่อเก็งกำไร
คำกล่าวของผู้บริหารบริษัทน้ำมันลิเบียมีขึ้น หลังจากที่มีรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า บีพีกำลังหาทางให้กองทุนความมั่งคั่งจากตะวันออกกลางเข้ามาลงทุนในบริษัท หลังจากที่หุ้นของบีพีร่วงลงประมาณ 50% นับตั้งแต่เกิดวิกฤตน้ำมันรั่วเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
นายกาเนมกล่าวว่า "บีพีกำลังน่าสนใจ เนื่องจากราคาหุ้นต่ำลงถึงครึ่งหนึ่ง ขณะที่ตัวผมเองยังคงเชื่อมั่นในบีพี ผมจะแนะนำบีพีให้กับกองทุนของรัฐบาลลิเบีย (Libyan Investment Authority)"
บีบีซีรายงานว่า ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ได้มีกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับกองทุนหรือบริษัทที่อาจจะเข้ามาลงทุนในบีพี ไม่ว่าจะเป็น กองทุนของรัฐบาลคูเวต บริษัทปิโตรไชน่าของจีน และบริษัทเอ็กซอนโมบิล ของสหรัฐ
ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้หุ้นบีพีปรับตัวขึ้น 3.4% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ เพราะรายงานข่าวที่ว่านักลงทุนในตะวันออกกลางสนใจลงทุนในบีพี
ด้านบีพีกล่าวว่า บริษัทยินดีต้อนรับนักลงทุนรายใหม่ แต่ยังไม่มีแผนที่จะออกหุ้นใหม่
ทั้งนี้ บีพีกำลังเผชิญปัญหาหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น โดยวานนี้ บีพี เพิ่งเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์น้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก ได้เพิ่มขึ้นแตะ 3.12 พันล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวรวมถึง การควบคุมการรั่วไหลของน้ำมัน การทำความสะอาดคราบน้ำมันที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทั่วบริเวณ และการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้
สำหรับค่าใช้จ่ายที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุดนี้ เพิ่มขึ้นมาจากมูลค่า 2.65 พันล้านดอลลาร์ที่รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อน และมีแนวโน้มว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้อีกมาก